ดีแทคเดินหน้าต่อเนื่องนำดีแทคโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดลงสู่ตลาดสมาร์ทโฟน 3 รุ่น

ดีแทคเดินหน้าต่อเนื่องนำดีแทคโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดลงสู่ตลาดสมาร์ทโฟน 3 รุ่น ได้แก่ “อีเกิ้ล รุ่น 5.0” , “อีเกิ้ล รุ่น 4.5” และ “โจอี้ ฟิต 2 รุ่น 4.0”ที่ชูจุดขาย “ความสมบูรณ์แบบในราคาแค่เอื้อม” เสริมรูปลักษณ์ดีไซน์สุดหรู เพิ่มฟังก์ชั่นรองรับทุกการใช้งาน ในราคาเบาๆ ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้นด้วยการใช้งานผ่านระบบ 3G มอบประสบการณ์การถ่ายภาพชัดเจนที่สุดเก็บทุกรายละเอียดด้วยหน้าจอกว้างคมชัดความละเอียดกล้องสูงสุดถึง 13 ล้านพิกเซล พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มให้ค่าโทรเท่าราคาเครื่องสูงสุดถึง 3,800 บาท และฟรี Facebook และ Line นาน 10 เดือน รวมมูลค่าโปรโมชั่นสูงสุด 9,880 บาท

นางสาวปริศนา รัตนสุวรรณศรี ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานธุรกิจโพสต์เพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า เนื่องจากดีแทคได้ศึกษาข้อมูลทางการตลาดและความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องส่งผลให้ดีแทคโฟนรุ่นผ่านมา อาทิ “ โจอี้ ฟิต ซีรีส์” , “โจอี้ จัมพ์ ซีรีส์” , “ไตรเน็ตโฟนเจน 2” และ “ไตรเน็ตโฟน” ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม โดยในปี 2557 ดีแทคมียอดการจำหน่ายสมาร์ทโฟนดีแทคกว่า 1 ล้านเครื่อง ประกอบกับปัจจุบันคุณภาพของสมาร์ทโฟนจากดีแทคสามารถเทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำทั้งในด้านคุณภาพและรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ในราคาที่ต่ำกว่า จึงได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วประเทศ

ดีแทคได้เปิดตัวดีแทคโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดลงสู่ตลาดถึง 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ อีเกิ้ล รุ่น 5.0 และ อีเกิ้ล รุ่น 4.5 และ โจอี้ ฟิต 2 รุ่น 4.0 เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้นด้วยการใช้งานผ่านระบบ 3G เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคในปัจจุบัน ดีแทคโฟนทั้ง 3 รุ่นนี้นับเป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันจากดีแทคในราคาที่คุ้มค่าเพียง 1,690 บาท สำหรับ โจอี้ ฟิต 2 รุ่น 4.0 และ สำหรับ อีเกิ้ล รุ่น 4.5 และ 5.0 ราคาเพียง 2,690 บาท และ 3,790 บาท ผ่านการปรับรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกให้หรูหราขึ้น โดย อีเกิ้ล รุ่น 5.0 และ อีเกิ้ล รุ่น 4.5 มีให้เลือก 3 สี คือ สีทอง Champagne Gold บ่งบอกถึงความหรูหรา และ สีเทา Metallic Grey สุดเท่ห์ (รุ่น 5.0) และ สีเงิน Titanium สง่ามีระดับ (รุ่น 4.5) ด้วยฝาหลังลาย Brushed metal  มาพร้อมหน้าจอคมชัดขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว และ 5 นิ้ว ระบบ HD IPS อัดแน่นสเปคสูงด้วยชิพ Quad core จุดเด่นเรื่องกล้องคมชัดที่ให้ความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล (สำหรับรุ่น 5.0) มาพร้อมกับแอพพิเคชั่นถ่ายภาพภายในเครื่องที่สามารถตกแต่งภาพถ่ายได้อย่างมืออาชีพ สำหรับโจอี้ ฟิต 2 รุ่น 4.0 นั้นได้พัฒนามาจากโจอี้ ฟิต รุ่นแรก โดยปรับรูปลักษณ์ใหม่ให้หรูหราขึ้น แต่ยังคงคอนเซ็ปสเปกสูงกว่าราคาเบาๆ เพื่อตอกย้ำความคุ้มค่าในราคาสุดคุ้ม เพียง 1,690 บาท

นอกจากนี้ดีแทคได้ร่วมมือกับบริษัท แซดทีอี (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์รายใหญ่ของจีน เพื่อให้เป็นผู้ผลิตดีแทคโฟนรุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้สินค้าที่มีคุณภาพสูงและโปรโมชั่นที่คุ้มค่าเกินกว่าราคาเครื่องแน่นอน นอกจากนี้ดีแทคยังรุกตลาดมากขึ้นด้วยการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของดีแทคไปยังร้านค้าทั่วประเทศมากกว่า 20,000 แห่ง และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ อาทิ บิ๊กซี ที่จะสามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 10,000 แห่ง ในปี 2558

ดีแทคยังเสนอโปรโมชั่นสุดคุ้มสำหรับลูกค้าที่ซื้อดีแทคโฟนรุ่นทั้ง 3  รุ่น กับโปรโมชั่นให้ค่าโทรเท่าราคาเครื่องสูงสุดถึง 3,800 บาท และโปรโมชั่นฟรี Facebookและ Line นาน 10 เดือน รวมมูลค่าโปรโมชั่นสูงสุด 9,880 บาท สำหรับลูกค้าแฮปปี้โดยเฉพาะ  รับโบนัสโทรฟรีรวม 3,800บาท เน็ตฟรีรวม 2GB และ ฟรีFacebook และ Line รับสิทธิ์กด*399*119#โทรออก เมื่อซื้อ “อีเกิ้ล รุ่น 5.0”, รับโบนัสโทรฟรีรวม 2,700บาท เน็ตฟรีรวม 1GB และ ฟรี Facebook และ Line รับสิทธิ์กด*399*118# โทรออก เมื่อซื้อ “อีเกิ้ล รุ่น 4.5” และ รับโบนัสโทรฟรีรวม 1,700บาท เน็ตฟรีรวม 500MB และ ฟรี Facebook และ Line รับสิทธิ์กด*399*117#โทรออก เมื่อซื้อ “โจอี้ ฟิต 2 รุ่น 4.0” รับสิทธิ์นาน 10 เดือน เพียงเติมเงินสะสมครบ 100 บาท ต่อเดือน สำหรับลูกค้าแบบรายเดือนกับแพ็กเกจ Love & Roll เน็ตแรงไม่ลดสปีด ใช้เน็ตไม่หมด ทบไปเดือนหน้าได้ พร้อมโทรฟรีทุกเครือข่ายเริ่มต้นเพียงเดือนละ 299 บาท และข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าเปลี่ยนจากระบบเติมเงินเป็นระบบรายเดือนและลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม

สำหรับลูกค้าที่สนใจดีแทคโฟนทั้ง 3 รุ่น มีวางจำหน่ายแล้วที่ศูนย์บริการดีแทคทุกสาขาทั่วประเทศ, dtac online store, ร้านขายมือถือทั่วประเทศ อาทิ TG Foneและ Jaymart พร้อมสบายใจได้บริการรับเปลี่ยนเครื่องใหม่ภายใน 7 วัน และมีการรับประกันเครื่องมากกว่านานถึง 15 เดือน ตลอดจนบริการหลังการขายกับ ศูนย์บริการหลังการขายทั่วประเทศ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.dtac.co.th