บิ๊ก ดาต้า เอ็กซ์พีเรียนซ์เซ็นเตอร์
บิ๊ก ดาต้า เอ็กซ์พีเรียนซ์เซ็นเตอร์ เพราะยุคนี้คือยุคของโซเชียลมีเดีย... ที่ไลน์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ รวมถึงอินสตาแกรม กลายเป็นช่องทางสื่อสารหลักอย่างหนึ่งในสังคม
ข้อมูลจาก “นายนาถ ลิ่วเจริญ” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทจีเอเบิล ระบุ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานผ่านโมบาย ดีไวซ์ มากกว่า 8,000 ล้านเครื่องทั่วโลก และในแต่ละวันมีการแชร์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กมากกว่า 500 เทระไบต์ (TB) มีคนกดไลค์ (Like) ในเฟซบุ๊กมากกว่า 2,700 ล้านครั้ง และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่า 10 เท่าในทุก ๆ 5 ปี ตลอดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจากรูปภาพและวิดีโอที่มีจำนวนมากขึ้น
ข้อมูลเหล่านี้จัดเป็น “บิ๊ก ดาต้า” (Big Data) หรือ “อภิมหาข้อมูล” ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์สร้างความได้เปรียบเชิงธุรกิจ หากรู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม แม้เทคโนโลยีบิ๊ก ดาต้า จะเริ่มเป็นที่แพร่หลายในต่างประเทศและองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ แต่สำหรับประเทศไทย บุคลากรผู้มีทักษะความชำนาญในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เหล่านี้ ยังถือว่าขาดแคลน และผู้ประกอบการไทยโดย เฉพาะเอสเอ็มอี ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังขาดความเข้าใจในเทคโนโลยีนี้
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จึงร่วมกับบริษัท จีเอเบิล คอร์ เปอเรชั่น จำกัด จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “บิ๊ก ดาต้า เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็น เตอร์” (Big Data Experience Center) หรือ BX ขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลคุณภาพสูงเข้าสู่ตลาดเทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่และขยายความต้องการการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าว ศูนย์เทคโนโลยีเฉพาะทางแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 ของอาคารศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อออกแบบและเทคโนโลยี หรือตึก KX แคมปัสในเมืองแห่งใหม่ของ มจธ. ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสวงเวียนใหญ่
รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน” อธิการบดี มจธ. บอกว่า ปัญหาหลักของเอสเอ็มอีคือการเข้าถึงเทคโนโลยี มจธ.จึงตั้งศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อออกแบบและเทคโนโลยีขึ้นมา เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อและต่อยอดผลงานวิจัยไปสู่สังคม ทำให้ นศ.ได้เรียนรู้และทำงานจากโจทย์จริง ๆ จากภาคอุตสาหกรรม และมีการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางเทคโนโลยี อย่างเช่น จี-เอเบิล ที่ มุ่งเน้นจะเป็นแกนหลักในการนำพาร์ทเนอร์ ระดับโลกมาช่วยพัฒนาเทคโนโลยีบิ๊กดาต้าในประเทศไทย
“รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล” รองคณบดี ฝ่ายพัฒนาการศึกษา มจธ.บอกว่า จุดสำคัญ ของศูนย์บิ๊ก ดาต้า เอ็กซ์ พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ก็คือ การเน้นระบบนิเวศ (Ecosystem) หรือสภาพแวดล้อมในการพัฒนาเทคโนโลยีบิ๊ก ดาต้า อย่างยั่งยืน ที่นี่ไม่เน้นการเรียนรู้แบบต้องฟังอาจารย์หน้าชั้นเรียน แต่จะเป็นเวทีที่ให้ภาคอุตสาหกรรมเข้ามาพูดคุยกับนักศึกษาเพื่อให้เกิดการเข้าใจมากขึ้น
นายนาถ ยังบอกอีกว่า การนำ บิ๊ก ดาต้า มาใช้ เป็นเรื่องของการวางยุทธศาสตร์ของภาคธุรกิจว่าจะเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และนำข้อมูลมาใช้กับกระบวน การทำธุรกิจได้อย่างไร ซึ่งจีเอเบิลมองว่า บิ๊ก ดาต้า เป็นส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันธุรกิจ และเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตลอดจนการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานสู่เศรษฐกิจแบบดิจิตอล
แต่บุคลากรด้าน บิ๊ก ดาต้า ทุกแขนงในเมืองไทยยังขาดแคลนอยู่มาก สวนทางกับตลาด บิ๊ก ดาต้าที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด ข้อมูลจากไอดีซีสรุปว่า ปี 2557 ตลาดรวมบิ๊ก ดาต้าทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ สหรัฐ ซึ่งเติบโตสูงกว่าภาพรวมตลาดไอทีถึง 6 เท่า นอกจากนี้ ยังพบว่าในปัจจุบันองค์กรใหญ่ ๆ เกือบ 70% ต้องซื้อข้อมูลจากภายนอกมาวิเคราะห์และคาดว่า 4-5 ปีข้างหน้า ทุกองค์กรขนาดใหญ่ต้องซื้อข้อมูลเพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ ผล ซึ่งแนวโน้มในเมืองไทยน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สำหรับศูนย์บิ๊ก ดาต้าฯ ที่จัดตั้งขึ้นนี้
นางสาวปาจรีย์ แสงคำ” รองประธานสายงานโซลูชั่น บริษัท จี บิสซิเนส จำกัด บอกว่า ภายในจะมีห้องวิจัยด้านบิ๊ก ดาต้า ที่มีผู้เชี่ยวชาญปฏิบัติงานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientists) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี และ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ องค์กรธุรกิจต่าง ๆ หรือเอส เอ็มอีสามารถเข้ามาใช้บริการ เพื่อพูดคุยกับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ร่วมกันค้นหากระบวนการด้าน บิ๊ก ดาต้า ที่เหมาะสม และเริ่มต้นโครงการต่าง ๆ ได้ทันที นอกจากนี้ ภายในศูนย์ยังมีพื้นที่สำหรับการนำเสนอแนวคิด ผลิตภัณฑ์ หรือบริการทางเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมไปถึงพื้นที่สำหรับการจัดอภิปรายและการประชุมเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเรียนรู้ด้าน บิ๊ก ดาต้า อีกด้วย ปีนี้..ตั้งเป้าว่าจะมีผู้สนใจลงทะเบียนและใช้บริการของศูนย์ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย ซึ่งสมัครสมาชิกใช้บริการฟรีได้ที่ www.bigdataexperience .org
และที่แห่งนี้ จะกลายเป็นสถานที่สร้างบุคลากรด้านบิ๊ก ดาต้า ซึ่งอนาคตจะเป็นอาชีพที่สำคัญและเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากในตลาดแรงงาน รวมถึงเป็นสถานที่บ่มเพาะนวัตกรรมด้าน บิ๊ก ดาต้า ของประเทศไทย.
ที่มา:
ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting
ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ
Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFeFacebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
คำค้นหา : ปัจจุบันมีผู้ใช้งานผ่านโมบาย ดีไวซ์ มากกว่า 8000 ล้านเครื่องทั่วโลกในแต่ละวันมีการแชร์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กมากกว่า 500 เทระไบต์มีคนกดไลค์ (Like) ในเฟซบุ๊กมากกว่า 2700 ล้านครั้งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่า 10 เท่าในทุก ๆ 5 ปีข้อมูลเหล่านี้จัดเป็น “บิ๊ก ดาต้า” (Big Data) หรือ “อภิมหาข้อมูล” ปัญหาหลักของเอสเอ็มอีคือการเข้าถึงเทคโนโลยีตั้งศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อออกแบบและเทคโนโลยีขึ้น เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อและต่อยอดผลงานวิจัยไปสู่สังคมมีการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางเทคโนโลยีเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตลอดจนการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานสู่เศรษฐกิจแบบดิจิตอลบุคลากรด้าน บิ๊ก ดาต้า ทุกแขนงในเมืองไทยยังขาดแคลนอยู่มาก