มาดู 5 วิธีรักษารอยแผลเป็น ปรับผิวให้เนียนใส

มาดู 5 วิธีรักษารอยแผลเป็น ปรับผิวให้เนียนใส

หมวดหมู่: บทความทั่วไปTip & Technic

5 วิธีรักษารอยแผลเป็น ปรับผิวให้เนียนใส ไร้ตำหนิแบบได้ผลจริง

การเกิดรอยแผลเป็นอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ถ้าเกิดที่บริเวณผิวหน้ามักจะมาจากรอยสิว ที่อาจพาให้เกิดหลุมสิวและกลายเป็นรอยแผลไปยาวนาน แต่ถ้าเกิดบนร่างกายอาจเป็นจากการเกิดบาดแผลต่าง ๆ ที่ได้รับการดูแลไม่ดีเพียงพอ จนทำให้ผิวเสียหายและกลายออกมาเป็นแผลชัดเจน ซึ่งสาว ๆ ที่กำลังเผชิญปัญหานี้ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะมี 5 วิธีช่วยแก้ไขปัญหารอยแผลเป็นที่ทำให้รอยเจือจางลงได้ดีและได้ผลจริง เพียงทำตามอย่างต่อเนื่อง ได้ผิวสวยกลับมาแน่นอน


5 วิธีรักษารอยแผลเป็น

1.ใช้ครีมบำรุงที่ช่วยลดรอยแผล

เลือกใช้เป็นครีมบำรุงผิว ที่ช่วยในการลดรอยแผลเป็นโดยตรง ซึ่งสามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป เพียงแค่บอกกับเภสัชกร เพื่อช่วยแนะนำในการทา คุณจะได้ยาหรือครีมที่ช่วยลดรอยแผลเป็นในกลุ่มวิตามินอี วิตามินเอ วิตามินบี 3 หรือภายในกลุ่มสารสกัดต่าง ๆ ที่จะช่วยในการลดอักเสบ ลดการสร้างคอลลาเจนบริเวณผิวที่อาจกลายเป็นแผลชัดเจน และเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น และแนะนำว่าให้ใช้ต่อเนื่อง แม้จะใช้ระยะเวลานานแต่จะช่วยทำให้ผิวดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ


2.ใช้กรด AHA เข้มข้น

ลดปัญหารอยแผลเป็น ด้วยการใช้วิธีผลัดเซลล์ผิวจากกรด AHA ที่มีความเข้มข้นประมาณ 70% ทำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 1 เดือน จะช่วยทำให้รอยแผลลดลงและจางลงเรื่อย ๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่ควรต้องใช้ร่วมกับการดูแลของแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกร เพื่อไม่ทำให้ผิวบริเวณอื่นต้องเกิดอาการระคายเคืองและไวต่อแสงแดดไปด้วย


3.พบแพทย์ผิวหนัง

ถ้าเป็นแผลเป็นแบบคีลอยด์ที่นูนออกมา หรือเป็นแผลที่ทำให้จางลงไปง่าย ๆ แนะนำการเข้าพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อวิเคราะห์ดูว่าเหมาะสมต่อการทำหัตถการประเภทใด เช่น การใช้เลเซอร์เพื่อการลบรอยแผล กำจัดเม็ดสี หรือใช้การฉายรังสีเพื่อรักษาแผลเป็นที่เป็นรอยนูน และยังมีการผ่าตัดกับการฉีดฟิลเลอร์ การใช้เครื่องขัดผิว ที่จะเหมาะสำหรับแผลเป็นขนาดใหญ่ที่เป็นรอยหลุมลึกหรือเป็นรอยนูน ที่อาจใช้ครีมและวิธีอื่น ๆ ไม่ได้ผล


4.รับประทานวิตามินและโปรตีน

เพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาแผลเป็นให้ดีมากขึ้น ด้วยการรับประทานวิตามินและแร่ธาตุเสริม เลือกรับประทานเป็นวิตามินอีที่จะเพิ่มความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากแผลเป็น รวมไปถึงการรับประทานวิตามินซี วิตามินบี 3 และรับประทานโปรตีนที่ถือเป็นส่วนช่วยสำคัญ ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย ช่วยสมานแผลและทำให้แผลเป็นดีขึ้นอย่างรวดเร็ว


5.ไม่เกาเด็ดขาด

ถ้าไม่ต้องการให้แผลเป็น กลายเป็นแผลที่มีสีเข้มขึ้น หรือเกิดการอักเสบติดเชื้อที่หนักกว่าเดิม เลี่ยงการแกะ แคะ หรือเกาบริเวณแผลเด็ดขาด ถ้ารู้สึกคันให้ใช้เพียงหลังมือลูบไปบริเวณแผลเท่านั้น ถ้ามีแผลที่หลุดลอกออกมา ให้แผลหลุดไปเอง ห้ามแกะเด็ดขาด


แผลเป็นจะไม่ใช่เรื่องที่ทำให้รู้สึกวุ่นวายใจอีกต่อไป เพียงแค่ใช้ทั้ง 5 วิธีนี้ในการรักษารอยแผลเป็นบนผิว ให้ผลลัพธ์ที่ดีจริง ช่วยทำให้ผิวสวยขึ้นและเรียบเนียนกว่าเดิม ทำให้สาว ๆ ที่มีรอยแผลมั่นใจในตัวเองมากขึ้นได้

 

สนับสนุนเนื้อหา: 

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th

แนะนำหลักสูตรอบรมที่น่าสนใจ

user
โดย Nong-beam
เข้าชม 203 ครั้ง

คำค้นหา : แผลเป็นการรักษาแผลเป็นยาทา5 วิธีรักษารอยแผลการใช้ครีมบำรุงการใช้กรด ahaหาหมอวิตามินเสริมโปรตีนการเกาลักษณะแผลเป็น