หลักการทำงานของซัมซุงสมาร์ท โฮม

ซัมซุงก้าวสู่ ‘สมาร์ท โฮม -IoT’ 
ซัมซุงก้าวสู่ ‘สมาร์ท โฮม -IoT’ หลักการทำงานของซัมซุงสมาร์ท โฮม คือ ใช้ซัมซุงสมาร์ท ธิงส์ ฮับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในบ้านที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วนำชื่อไอพีอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ทุกชิ้นในบ้านมารวมกัน

ซัมซุงเผยปี ค.ศ.2020 อุปกรณ์ทุกชิ้นของซัมซุงจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ล่าสุดลุย “สมาร์ทโฮม” ที่สิงคโปร์เน้นเรื่องความสะดวก-ปลอดภัย-สุขภาพ ส่วนไทยอยู่ระหว่างศึกษาความต้องการใช้งานคาดปลายปีนี้รู้

มร.โจ ชาน รองประธานธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงแนวคิดเรื่องของ “ซัมซุงสมาร์ท โฮม (Samsung Smart Home) และเรื่องอินเทอร์เน็ตออฟ ธิงส์ (Internet of Things : IoT)” ว่าในปี ค.ศ.2020 ทั่วโลกจะมีอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้มากถึง 80,000 ล้านชิ้น โดย 1 คน จะมีอุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากถึง 5 ชิ้น และจะมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 60% ของจำนวนประชากรทั้งโลก ขณะที่ในปี ค.ศ. 2023 จะมีจำนวนผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มากถึง 1 พันล้านคนทั่วโลกดังนั้นเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อและหลอมรวมอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในบ้านเข้ากับอุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ เพื่อดูแลผู้สูงวัย

มร.เดอร์ริค เหลา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายดูแลลูกค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์อสังหาริมทรัพย์ธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัดกล่าวว่าการทำสมาร์ทโฮมของซัมซุงมีจุดเด่นที่แพลตฟอร์มการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ทางอินเทอร์เน็ตเพื่อสั่งงานผ่านอุปกรณ์สื่อสารเรียกว่า ’ซัมซุงสมาร์ท ธิงส์ ฮับ“ (Samsung Smart Things Hub) ซึ่งเป็นตัวกลางในการป้อนและรับคำสั่งต่าง ๆ ไปสู่เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มสมาร์ทของซัมซุง มร.เดอร์ริค กล่าวต่อว่า สำหรับซัมซุงในสิงคโปร์ได้มีการเสนอตัวจัดทำสมาร์ทโฮม ให้กับโครงการที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ โดยจัดทำโครงการต้นแบบ “ซัมซุงสมาร์ท โฮม” ด้วยการจำลองที่อยู่อาศัยขนาด 3 ห้องนอนให้เป็นสมาร์ทโฮมประกอบด้วย ห้องพ่อแม่ ห้องนอนลูก และห้องผู้สูงอายุ รวมทั้งห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบที่ไม่มีเวลาดูแลผู้สูงอายุและเด็กที่อยู่บ้านตามลำพัง

“ซัมซุงสมาร์ท โฮม จะช่วยเป็นหูเป็นตาและคอยระวัง เช่น ส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อผู้สูงอายุหกล้มและหมดสติจากการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และจังหวะการเต้นของหัวใจผู้สูงอายุหากพบความผิดปกติจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนเข้าโทรศัพท์มือถือรวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยการเปิด-ปิดประตู การควบคุมระบบไฟฟ้าต่าง ๆ และเรื่องของความสะดวกสบายสามารถตั้งค่าให้เครื่องดูดฝุ่นทำงานระหว่างที่ไม่อยู่บ้าน เป็นต้น” มร. เดอร์ริคกล่าว

มร.เดอร์ริคกล่าวว่า “สมาร์ทโฮม” ต่างจาก “โฮมออโตเมชั่น” ตรงที่โฮมออโตเมชั่น มนุษย์ยังต้องเป็นผู้สั่งงานเช่น อยากเปิดม่านก็ต้องเดินไปสั่งด้วยเสียงหรือกดรีโมตแต่ สมาร์ท โฮมมนุษย์สั่งงานผ่านอุปกรณ์สื่อสารให้ม่านเปิดหรือปิดได้ในทุกที่ ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแม้ตัวจะไม่อยู่ตรงนั้น

“หลักการทำงานของซัมซุงสมาร์ท โฮม คือ ใช้ซัมซุงสมาร์ท ธิงส์ ฮับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในบ้านที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วนำชื่อไอพีอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ทุกชิ้นในบ้านมารวมกันไว้ในแอพพลิเคชั่นซัมซุงสมาร์ท ธิงส์ ซึ่งสามารถเก็บรวบรวมไอพีอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ไม่จำกัดจำนวน เมื่อต้องการสั่งให้อุปกรณ์ตัวไหนทำงานหรือหยุดทำงาน ก็สามารถสั่งผ่านโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ได้ โดยรายงานผลและสั่งงานแบบเรียลไทม์” มร.เดอร์ริคกล่าว

อย่างไรก็ตามการที่จะทำให้ที่อยู่อาศัยกลายเป็นสมาร์ทโฮม ได้ ต้องประกอบด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ดี ผลิตภัณฑ์ในบ้านที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์ เน็ตได้ แพลตฟอร์มในการเชื่อมต่อเช่น ซัมซุง สมาร์ท ธิงส์ฮับ สำหรับเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ควบคุมแอพพลิเคชั่นในการสั่งงานอุปกรณ์ ซึ่งเป็นตัวเซ็นเซอร์ในการตรวจจับสิ่งต่าง ๆ ในลักษณะที่ต้องการ เช่นเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับความเคลื่อนไหวใช้เพื่อตรวจจับสิ่งผิดปกติภายในบ้านเซ็นเซอร์สำหรับตัวจับความร้อนใช้ในการตรวจจับความร้อนที่ผิดปกติภายในบ้านเช่น ลืมปิดเตาแก๊สเซ็นเซอร์จะทำงานโดยส่งสัญญาณแจ้งเตือนเข้าโทรศัพท์มือถือเป็นต้น

ทั้งนี้สิงคโปร์ถือเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ซัมซุงมีการทำต้นแบบสมาร์ทโฮม ที่สมบูรณ์ที่สุด เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความพร้อมมีอัตราการใช้งานโทรศัพท์มือถือโตถึง 120% จากจำนวนประชากร 5.74 ล้านคนและ 88% ของจำนวนประชากรใช้อินเทอร์เน็ตผ่านเอดีเอสแอลที่เหลือใช้ผ่านมือถือส่วนรัฐบาลของสิงคโปร์ ก็ได้ประกาศนโยบายที่จะนำประเทศเข้าสู่ “สมาร์ท เนชั่น” ในปี ค.ศ.2020

ด้านประเทศไทย นายมณฑล มังกรกาญจน์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรบริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่าขณะนี้ซัมซุงประเทศไทยอยู่ระหว่างศึกษาว่ามีฟีเจอร์สมาร์ทโฮม แบบไหนที่เหมาะกับคนไทยคาดว่าจะสามารถประกาศได้ในปลายปีนี้ และมองว่าสมาร์ท โฮมเป็นนวัตกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวในทุกตลาดโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในไทยซัมซุงร่วมมือกับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พัฒนาซัมซุงสมาร์ทโฮมเพื่อนำมาใช้ในโครงการที่อยู่อาศัย ของอนันดา คาดว่าจะเริ่มทำตลาดได้ในปีพ.ศ.2559

นายมณฑลกล่าวต่อว่า ในปีค.ศ.2020 ซัมซุงประกาศว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของซัมซุงจะสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้หรือที่เรียกว่าIoT ซึ่งวันนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของซัมซุงที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องดูดฝุ่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ พรินเตอร์ ทีวี และกล้องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ของซัมซุงที่มีมากมาย

สำหรับการทำตลาดของซัมซุงสมาร์ท โฮม ในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป (รีเทล) ซัมซุงได้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำให้บ้านเป็นสมาร์ทโฮมแล้วในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ส่วนประเทศสิงคโปร์และไทยอยู่ระหว่างเริ่มต้นเรื่องของสมาร์ทโฮม วันนี้ “สมาร์ท โฮม” และ “IoT” เป็นเรื่องที่ขยับเข้าใกล้เรามากขึ้นทุกที.“

ที่มา: