เจมาร์ท หยุดขายประกันอีวี คปภ.สั่ง 3 บริษัทแก้แผนบริหารความเสี่ยง

เจมาร์ท หยุดขายประกันอีวี คปภ.สั่ง 3 บริษัทแก้แผนบริหารความเสี่ยง


 

คปภ.ตีกลับแผนบริหารความเสี่ยงรับประกันรถอีวี เผยมี 2-3 ค่ายประกันต้องแก้แผนแจงรายละเอียดให้ชัดเจน ขีดเส้นส่งกลับมาใหม่กลางเดือน ก.ย.นี้ ยันมอนิเตอร์สถานการณ์เคลมประกัน EV ใกล้ชิด ลั่นหากเจอสัญญาณแข่งตัดราคาขายกรมธรรม์ออกหนังสือเตือนทันที ฟาก “เจมาร์ทประกันภัย” ยอมรับหยุดรับประกันรถอีวี ยกเลิกแพ็กเกจที่เสนอขายไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว พร้อมยืนยันลูกค้าเก่ายังได้รับความคุ้มครองจนครบสัญญา

นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการด้านกำกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจาก คปภ. มีคำสั่งให้บริษัทประกันวินาศภัยที่ขายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 26 บริษัท จะต้องส่งแผนบริหารความเสี่ยงที่รับประกันภัยรถอีวีเข้ามาให้สำนักงาน คปภ. พิจารณาใน 3 เรื่องหลัก คือ

1.  ข้อมูลทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการขาย กลุ่มเป้าหมาย และกำไร

2.  ศักยภาพของบริษัทในการรับประกันภัย ทั้งจำนวนกรมธรรม์สูงสุด จำนวนเงินเอาประกันภัยสูงสุด และอัตราส่วนรวมค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Combined Ratio) สูงสุดที่บริษัทมีศักยภาพในการรับประกันภัย

และ 3.  วิธีการบริหารความเสี่ยง ทั้งความเสี่ยงสำคัญ แนวทางการใช้เบี้ยประกันภัย และการปรับเปลี่ยนเพื่อพร้อมรับสถานการณ์ อะไหล่ อู่ซ่อม การประกันภัยต่อ การเก็บข้อมูล การติดตามหลังออกสู่ตลาด

“ตอนนี้ทุกบริษัทประกันได้ส่งแผนบริหารความเสี่ยงมาแล้ว แต่ คปภ.ได้สั่งให้มีการแก้ไขแผนบริหารความเสี่ยงใหม่ ประมาณ 2-3 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็ก โดยให้แก้ไขในเรื่องความชัดเจนในการติดตามอัตราความเสียหายจากการเคลมประกันรถอีวี หรือ Loss Ratio ให้สอดคล้องกับศักยภาพของบริษัท

ซึ่งต้องระบุให้ชัดเจนเลยว่า Loss Ratio ขึ้นไปถึงระดับไหน ถึงจะหยุดรับประกัน และด้วยศักยภาพของบริษัทจะรับประกันได้สูงสุดกี่กรมธรรม์ โดยต้องให้นักคณิตศาสตร์ประกันภัยคำนวณออกมา ทั้งนี้ กำหนดให้ส่งแผนกลับมาใหม่ภายในกลางเดือน ก.ย.นี้”

อย่างไรก็ดี ส่วนใหญ่แผนที่แต่ละบริษัทส่งมา จะมีการส่งประกันภัยต่อ (รีอินชัวรันซ์) ซึ่งก็มีหลายรูปแบบ เช่น ร่วมกันรับผิดชอบ (Copayment) หรือแบบ Excess of Loss Reinsurance คือจ่ายจากความเสียหายส่วนเกิน ยกตัวอย่าง หากมีความเสียหายต่อครั้งที่เกิดขึ้นกับพอร์ตรถอีวีที่รับประกันไว้ไม่เกิน 10 ล้านบาท ส่วนที่เกิน 10 ล้านบาท ทางบริษัทประกันภัยต่อจะเป็นผู้รับผิดชอบจ่าย

นายอาภากรกล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์ Loss Ratio ของการรับประกันรถอีวี ตามที่มีข่าวว่าค่ายดังจากจีนเคลมทะลุ 100% ไปแล้วนั้น ขณะนี้ คปภ.ได้ติดตาม Loss Ratio ของแต่ละบริษัทที่รับประกันรถอีวีแบบใกล้ชิด จากระบบฐานข้อมูลกลางด้านประกันภัย (Insurance Bureau System)

และดูแนวทางการโควตเบี้ยประกันว่าต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ เพื่อนำมาแมตชิ่งกับแผนบริหารความเสี่ยงที่ส่งมา ถ้ายังอยู่ในกรอบของแผนที่ควบคุมได้ คปภ.จะยังไม่ดำเนินการอะไร

“คปภ.มีการจับตาเรื่องการแข่งราคาอยู่ ถ้าเมื่อไหร่ที่มีสัญญาณว่า บริษัทไหนตัดราคาแข่ง เราจะเชิญคณะกรรมการผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทนั้นมาพูดคุยถึงแนวทางในการทำตลาด ถ้าปัญหาอยู่ที่ราคา คปภ.คงจะต้องออกหนังสือเตือน”

นายอาภากรกล่าวว่า อย่างไรก็ดี รถอีวีเป็นเทรนด์ของโลก ทางบริษัทประกันภัยต้องทำธุรกิจนี้อยู่แล้ว ฉะนั้น คปภ.ก็หวังว่าจะทำธุรกิจด้วยความระมัดระวัง ไม่ต้องการเห็นรับเบี้ยมาอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาเรื่องสินไหม การบริการ และการพัฒนาศักยภาพของบริษัทในการรับประกันภัยด้วย

นางสาวศศิวิมล ลักษณ์อำนวยพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจมาร์ทประกันภัย กล่าวว่า บริษัทได้หยุดรับประกันรถอีวี โดยการยกเลิกแพ็กเกจที่เสนอขายไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา สาเหตุเพราะการตีมูลค่าการซ่อมในส่วนของแบตเตอรี่เมื่อได้รับความเสียหายจะตีเป็นความเสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) แล้ว ไม่คุ้มกับค่าเบี้ยประกันและวอลุ่มที่จะได้ในตลาด

นอกจากนี้มีความกังวลเกี่ยวกับความเชี่ยวชาญในการซ่อมตัวถัง เพราะยังเป็นเรื่องใหม่ หากกระทบต่อระบบไฟฟ้า จะเป็นเหมือนยิ่งซ่อมยิ่งเสียเข้าไปกันใหญ่ และทางฝั่งลูกค้าเองก็อาจจะรู้สึกไม่พึงพอใจได้

“บริษัทพิจารณาแล้ว ขอรอดูสถานการณ์ของตลาดไปก่อน โดยยังไม่มีนโยบายรับงานใหม่ หรือรีแพ็กเกจใหม่ โดยรถอีวีที่บริษัทรับประกันที่ผ่านมา อาทิ FOMM, ORA Good Cat มีอยู่ประมาณ 100 คัน พอร์ตไม่ได้ใหญ่ เพราะบริษัทไม่ได้รับประกันรถป้ายแดง

โดยหลักจะรับประกันรถปีที่ 2 ที่ลูกค้ามาหาซื้อประกันเองผ่านโบรกเกอร์ที่ส่งงานมาให้บริษัท รวมทั้งมีการรับประกันรถอีวีของกลุ่มผู้บริหารในเครือเจมาร์ท อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ทำประกันรถอีวีกับบริษัทไว้แล้วไม่ต้องกังวล เพราะจะยังได้รับความคุ้มครองจนครบสัญญาตามกรมธรรม์”

ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) ระบุว่า ปีนี้คาดการณ์ว่าอัตราความเสียหายที่แท้จริงจากการเคลมประกันของรถอีวีทั้อุตสาหกรรมจะเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 80% เนื่องจากการเคลมสินไหมของค่ายรถอีวีจีนค่ายหนึ่งพุ่งขึ้นจนถึงระดับ 100% เฉพาะของกรุงเทพประกันภัย ค่ายรถอีวีรายดังกล่าวมีการเคลมประกันสูงถึง 101% แล้ว ยังไม่รวมต้นทุนค่าใช้จ่ายอื่น


ที่มา: prachachat.net/finance/news-1646431