เดลล์ ปักธงขยายธุรกิจในไทย

อีก 5 ปี เป็นผู้นำตลาดไอที! 'เดลล์' ปักธงขยายธุรกิจในไทย
เดลล์ ประกาศทิศทางสู่ Dell 2020 Legacy of Good Plan ตั้งเป้าลงทุนด้านบุคลากรและช่องทางจัดจำหน่าย เล็งเปิดตัว IoT Lab ในต้นปีหน้า…

นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และผู้จัดการทั่วไป ภาคพื้นอินโดจีน เปิดเผยว่า บริษัทครบรอบการดำเนินงาน 20 ปีในประเทศไทย ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีแบบครบวงจร (End-to-End Solution Provider) ซึ่งจากนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับธุรกิจโดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคอมเมอร์เชียลและดิสทริบิวชั่น เพื่อรองรับความต้องการในการปรับเปลี่ยนรูปแบบเทคโนโลยีไอทีสู่ยุคคลาวด์คอมพิวติ้ง อี-คอมเมิร์ซ และการใช้งานโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ เดลล์ยังได้ปรับรูปแบบการจัดจำหน่าย จากการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายโดยตรงเป็นการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายรายต่างๆ ทำให้ปัจจุบันเดลล์มีสัดส่วนการจำหน่ายโดยตรงอยู่ที่ 10% และจำหน่ายผ่านตัวแทนราว 90% โดยสัดส่วนรายได้ในปัจจุบัน แบ่งเป็น 70% มาจากกลุ่มคอนซูเมอร์ โน้ตบุ๊ก และพีซี ส่วนอีก 30% มาจากผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรซ์

สำหรับการลงทุนในอนาคต บริษัทจะเน้นการลงทุนด้านบุคลากรเพิ่มขึ้น อาทิ พนักงานขายทางโทรศัพท์ และส่วนงานจัดจำหน่าย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้ลงทุน IoT Lab (Internet of Things) ในประเทศไทย เพื่อให้คำปรึกษาและวิเคราะห์เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของลูกค้า ทำให้มีความเข้าใจจากการเลือกใช้โซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเดลล์ พร้อมกระตุ้นให้เกิดการเลือกใช้งานโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเดลล์ได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีถัดไป

"ก้าวต่อไปของเดลล์จะดำเนินงานภายใต้แผนงาน Dell 2020 Legacy of Good Plan เพื่อไปสู่เป้าหมายในการเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมไอทีในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม จากการประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีในปัจจุบัน IDC ได้คาดการณ์ว่าอยู่ในแนวโน้มที่ลดลง แต่ธุรกิจเดลล์ยังคงเติบโตสวนกระแสทั้งส่วนธุรกิจเซิร์ฟเวอร์และโน้ตบุ๊ก โดยเดลล์ยังสามารถอยู่ในกลุ่มผู้นำอันดับ 3 ในตลาดคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊กของไทย"

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมไอทีในปีต่อไปจะยังสามารถเติบโตได้ เนื่องจากภาคธุรกิจต้องปรับตัวและลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสทางการแข่งขัน ขณะเดียวกันก็อาจมีปัจจัยลบจากปัญหาค่าเงินบาทอ่อนตัวและภาวะเศรษฐกิจซบเซา ส่วนแนวโน้มของกลุ่มคอนซูเมอร์นั้น บริษัทเชื่อว่ามีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดโน้ตบุ๊ก เนื่องจากผู้บริโภคกลับมาให้ความนิยมอีกครั้ง หลังจากช่วง 1-2 ปีก่อน ได้รับผลกระทบจากกระแสความนิยมแท็บเล็ต แต่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ 5-5.5 นิ้ว สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงแท็บเล็ต ประกอบกับการมาของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ทำให้ความต้องการโน้ตบุ๊กกลับมาอีกครั้ง โดยโน้ตบุ๊กขายดีของเดลล์มีราคาตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป.

ที่มา: