31 วิธีตายในกรุงเทพมหานคร

องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า "ความปลอดภัยสาธารณะเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับทุกชีวิตบนโลกนี้" แต่กรุงเทพมหานครยังคงเป็นหนึ่งในเมืองที่อันตรายที่สุดในโลก และนี่คือ 31 วิธีที่คุณอาจตายได้ง่ายๆ ในเมืองหลวงแห่งนี้

โดยบทความนี้ผมแปลมาจากต้นฉบับจากเว็บไซต์ https://bk.asia-city.com/ นะครับ พอดีอ่านแล้วชอบเลยแปลมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ลองอ่านกันดูครับ

1. ตายบนท้องถนน

ยอดผู้เสียชีวิต 22,491 คนจากอุบัติเหตบนท้องถนนของประเทศไทย หรือเฉลี่ยมีคนตายราวๆ 60 คนต่อวัน เป็นเครื่องยืนยันความน่ากลัวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีการทำยอด new height กันทุกๆ ปี ไม่ว่า ปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง ก็มีคนวัยหนุ่มสาวอายุ 15-29 ปีเอาชีวิตมาทิ้งจากความประมาท และการดื่มจนมึนเมาแล้วมาขับรถกันเต็มเมือง

2. มะเร็ง

จากผลสำรวจมีคนตายจากโรคมะเร็งในประเทศไทยกว่า 100,000 คนในปี 2018 โดยต้นเหตมาจาก นิสัยการดื่มกิน การสูบบุหรี่ของคนไทยที่มีมายาวนาน และภาครัฐจะพยายามรณรงค์ในเรื่องนี้แต่ก็ยังไม่เป็นผลเท่าที่ควร

3. โรคหัวใจ

โรคหัวใจขาดเลือดคร่าชีวิตคนไทยไปแล้วปีละ 10,000 คนทำให้เป็นโรคที่อันตรายอันดับสองของประเทศ ด้วย life style ของคนกรุงเทพฯ มักเน้นเรื่องการดื่มกินในช่วงวันหยุดและหลังเลิกงาน บางส่วนติดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ซึ่งมักเป็นต้นเหตของการเกิดโรคนี้

4. HIV (โรคเอดส์)

ประเทศไทยมีอัตราการติดเชื้อ HIV สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากข้อมูลของ UNAIDS คน 16,000 คนในประเทศไทยเสียชีวิตจากโรคนี้ในปี 2559 การติดเชื้อ HIV เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังเรียกร้องให้มีการศึกษาที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย 

5. โรคพิษสุนัขบ้า

แม้จะมีนโยบายการฉีดวัคซีนป้องกันอย่างกว้างขวางมาหลายสิบปี แต่อย่างไรก็ตามยังมีผู้เสียชีวิต 17 รายจากโรคนี้ในปี 2018 โดยตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปีก่อน อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขเองยังมีภาวะขาดแคลนวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าที่มีคุณภาพในช่วงที่ผ่านมา

6. โรคไข้เลือดออก

กรมควบคุมโรคประกาศการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในปีนี้เนื่องจากมีรายงานผู้ป่วย 28,785 รายทั่วประเทศไทยในปี 2019 มีผู้เสียชีวิต 43 ราย และตอนนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนว่าไวรัสไข้เลือดออกแพร่กระจายจากพื้นที่ชนบทสู่กรุงเทพฯ หากมีอาการเหล่านี้ ได้แก่ ปวดท้องอย่างรุนแรงอาเจียนท้องเสียชักชักฟกช้ำมีเลือดออกที่ไม่สามารถควบคุมได้และควรได้รับการรักษาทันที

7.ก่อการร้าย

หลายประเทศในปัจจุบันระบุถึงภัยคุกคามของการก่อการร้ายในประเทศไทยที่สูงขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในภาคใต้ อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ระเบิดบีทีเอสที่ไม่ถึงตายในเดือนสิงหาคมและการระเบิดของศาลพระพรหมเอราวัณที่มีคนเสียชีวิตไปกว่า 20 คนในครั้งนั้น และการโจมตีอื่น ๆ อีกมากมายในพื้นที่เขตเมืองทั่วโลกความเสี่ยงของการก่อการร้ายในกรุงเทพฯ ยังคงเป็นเรื่องน่ากลัว

8. แผ่นดินทรุดลง

ประเด็นนี้ไม่ได้เกิดจากคนหนักแผ่นดิน อย่างที่บางฝ่ายเอามาโจมดีแต่อย่างใด 555 แต่กรุงเทพกำลังทรุดลง เราอาจคิดว่าเป็นแค่เรื่องล้อเล่น แต่จริงๆ เมืองนี้คาดว่าจะทรุดต่ำลงถึงสองเซนติเมตรต่อปี กรุงเทพฯเป็นหนึ่งในเมืองที่มีอัตราการทรุดตัวเร็วที่สุดในโลกและมีบางมาตรการที่ลดลงต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าร้อยละ 40 ของกรุงเทพฯอาจถูกน้ำท่วมตั้งแต่ต้นปี 2573 เนื่องจากมีฝนตกชุกและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

9. โรคตับ (ที่ไม่ใช่การกินตับ)

คุณอาจต้องหยุดคิดสักนิด ก่อนจะหยิบเบียร์ LEO จากตู้แช่ใน 7-11 ในครั้งหน้า เพราะโรคตับฆ่าคนไทย 18,000 คนในปี 2017 โดยมีสถติสูงสุดในกรุงเทพ จำนวนนั้นเท่ากับประมาณ 50 คนต่อวัน การดื่มสุราเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของโรคตับที่ป้องกันได้และเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุจราจรและความรุนแรงในครอบครัว

10. ท้องเสีย

ฟังดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ใช่มั้ยครับ แต่จริงๆ แล้วท้องของคนกรุงเทพฯ พร้อมถูกโจมตีได้ตลอดเวลา จากเมนูอาหารริมทาง หรือ street food รสชาดดีที่เรานิยมกัน บางครั้งท้องเสียเพียงเล็กน้อย แต่นำไปสู่การติดเชื้อรุนแรงไปถึงเสียชีวิตได้เลยนะครับ

11. ไฟฟ้าดูด

สายโทรศัพท์ที่ดูน่าจับตามองที่ประดับประดาอยู่ในเมืองนั้นขึ้นอยู่กับคนที่คุณถามว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์แปลกตาหรือมีนัยน์ตาที่สมบูรณ์ อันตรายเท่าที่พวกเขาอาจจะดูพวกเขาไม่ได้ก่อให้เกิดการเสียชีวิตในเมือง แต่มีจำนวนเพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตด้วยไฟฟ้าเมื่อเร็ว ๆ นี้ สามคนเสียชีวิตเนื่องจากสายไฟผิดพลาดหลังจากเสียบสายโทรศัพท์

สายไฟระโยงระยางในเมืองหลวงแห่งนี้ อาจดูเป็นภาพชินตาของผู้คนแต่มันอาจแปลกตาสำหรับผู้มาเยือนจากที่อื่น นอกจากความยุ่งเหยิงแล้ว ยังแฝงไปด้วยอันตรายที่ไม่คาดคิด เพราะมันมีอันตรายถึงชีวิตกับคนเมือง อย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีคนสามคนเสียชีวิตเนื่องจากโดนไฟดูดจากการเสียบชาร์จโทรศัพท์

12. วัณโรค

องค์การอนามัยโลกระบุว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 14 ประเทศที่เลวร้ายที่สุดในโลกเมื่อพูดถึงโรคติดเชื้อแบคทีเรียนี้ ชาวกรุงเทพประมาณ 500 คนเสียชีวิตจากวัณโรคในแต่ละปี ความเสี่ยงในการติดเชื้อวัณโรคนั้นสูงขึ้นมากในสภาพที่แออัดยัดเยียดเช่นสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่พบได้ทั่วเมือง 

13. โจรกรรม

สถิติจากสำนักงานตำรวจนครบาลแสดงให้เห็นว่าการปล้นเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงในกรุงเทพ โดยเฉลี่ยมีรายงานการปล้นเมือง 29 ครั้งในแต่ละวัน เกือบ 300 คนเสียชีวิตในระหว่างการปล้นทุกปี

14. จมน้ำ

องค์การอนามัยโลกรายงานว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเด็กจมน้ำมากที่สุดในบรรดาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ปี 2543 มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีกว่า 23,000 คนจมน้ำตายในอาณาจักร - เฉลี่ยห้าวันต่อวัน - นับเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญสำหรับเด็กในกลุ่มอายุนี้

15. ฆาตรกรรมจากคู่สมรส

ถ้าคุณกำลังอ่านบทความนี้บนเตียงข้างคนรัก คุณจะเข้าใจมันได้อย่างดี คดีฆาตกรรมหลายครั้งในประเทศไทยเกิดจากการต่อสู้ระหว่างคู่รักและเกิดขึ้นกับปืนที่ไม่ได้ลงทะเบียน ดังนั้นคุณควรทำความเข้าใจกับคนรักคุณให้ดีๆ นะครับ

16.  โรคเบาหวาน

จากรายงานการวิจัยโรคเบาหวานพบว่าคนไทย 30,000 คนเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวานเป็นประจำทุกปีทำให้เป็นหนึ่งในโรคไม่ติดต่อที่อันตรายที่สุดในประเทศ เราชอบน้ำตาลที่เร่งรีบ แต่บางทีมันถึงเวลาที่เราจะตรวจสอบตัวเองเกี่ยวกับขนมหวาน

17. การฆ่าตัวตาย

องค์การอนามัยโลกรายงานว่าในปี 2562 จำนวนคนในประเทศไทยถึง 10,000 คนเสียชีวิตเนื่องจากการฆ่าตัวตายในแต่ละปีซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน น่าเสียดายที่ทรัพยากรทางจิตเวชมี จำกัด และผู้คนมักถูกกีดกันจากการแสวงหาการบำบัด หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักประสบกับความคิดฆ่าตัวตายเราขอแนะนำให้คุณไปที่ศูนย์วิกฤติในเมือง คุณสามารถโทรหาสายด่วนสามารีแห่งประเทศไทยได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่หมายเลข 02-713-6791 (ภาษาอังกฤษ) และ 02-713-6793 (ภาษาไทย) หรือสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323

18. โรคหลอดเลือดสมอง

ในแต่ละปีมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 250,000 รายที่ถูกบันทึกไว้ในประเทศไทย ผู้ป่วยประมาณ 50,000 คนเสียชีวิตและเป็นอัมพาตประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่จังหวะอาจถึงตายได้ แต่ความตายสามารถป้องกันได้หากผู้ป่วยตระหนักถึงอาการและไปที่โรงพยาบาลโดยตรง สัญญาณเตือนรวมถึง: มึนงงหรืออ่อนแรง, พูดไม่ชัด, สับสนหรือมีปัญหาในการทำความเข้าใจผู้คน, และเวียนศีรษะหรือสูญเสียความสมดุล การสูบบุหรี่โคเลสเตอรอลสูงและการใช้ชีวิตอยู่ประจำทำให้ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น

19. โรคไวรัสตับอักเสบบี

ระหว่าง 6 ถึง 12 เปอร์เซ็นต์ของคนที่มีอายุมากกว่า 40 ปีในประเทศไทยมีการพัฒนาโรคไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังหลังจากติดเชื้อในวัยเด็ก จากการประมาณการล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าเกือบ 3.5 ล้านคนเป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรังในปี 2554 ในระยะยาวสิ่งนี้อาจนำไปสู่โรคตับแข็งมะเร็งและการเสียชีวิตในกรณีร้ายแรง

20. โรคไข้หวัดหมู

องค์การอนามัยโลกกำหนดไข้หวัดหมูว่าเป็น“ การติดเชื้อทางเดินหายใจของมนุษย์ที่เกิดจากสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่เริ่มในสุกร” การระบาดทั่วโลกในปี 2010 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16,000 คน ตอนนี้การแพร่ระบาดของโรคระบาดครั้งใหม่ได้ก่อให้เกิดการเสียชีวิตอย่างหนักในพม่าเพื่อนบ้านทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไทยตื่นตัวอย่างมาก

21. ไฟไหม้

แม้ว่าข้อมูลจะไม่ชัดเจนว่ามีผู้เสียชีวิตจากการก่อไฟในปีนี้ แต่ยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเกิดเพลิงไหม้ทำลายเซ็นทรัลเวิลด์ฆ่าคนสองคนและบาดเจ็บอย่างน้อย 16 คน

22. ฝุ่น PM 2.5

เมื่อเร็ว ๆ นี้กรุงเทพฯ ได้ทำสถิติใหม่ที่ไม่มีใครต้องการ ด้วยการเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกโดยมีดัชนีคุณภาพอากาศสูงมากในสตราโตสเฟียร์แม้หอคอยมหานครไม่สามารถเข้าถึงได้ น่าเสียดายที่มีหน้ากาก N95 ไม่เพียงพอที่จะเดินเล่นในเมืองนี้

23. ปืน

ความรุนแรงของปืนในกรุงเทพนั้นยากที่จะติดตามเพราะตำรวจลังเลที่จะเผยแพร่สถิติ บางแหล่งอ้างว่าในปี 2559 มีผู้เสียชีวิตจากปืนถึง 3,000 คนในประเทศ รายงานอื่น ๆ ได้เสนอว่าอัตราความรุนแรงปืนของประเทศไทยนั้นสูงถึงสองเท่าในสหรัฐอเมริกา

24. ควันบุหรี่

แม้จะมีการสูบบุหรี่อย่างผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่หมอกควันที่ลอยอยู่ทั่วเมืองแสดงให้เห็นว่ากฎหมายนั้นไร้ความหมาย แต่หากรายงานจากสหรัฐอเมริกาเป็นสิ่งบ่งชี้ใด ๆ เราอาจต้องการถามว่าเรากำลังสูบบุหรี่ หรือสูบไอ อะไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐอเมริกากล่าวว่าพวกเขารู้ตัวถึงการเสียชีวิต 29 คนและผู้ที่เป็นไปได้อย่างน้อย 450 รายที่เป็นโรคปอดขั้นรุนแรงซึ่งสัมพันธ์กับการสูบไอ บางทีเจ้าหน้าที่อาจเข้าสู่บางสิ่งด้วยการห้ามสูบไอ

25. การดื่มเหล้า

เมื่อเร็ว ๆ นี้ความมึนเมาจากแอลกอฮอล์ที่รุนแรงทำให้พริตตี้สาว ฐิติมา นพพันธ์พิพัฒน์ หรือที่รู้จักกันดีในนาม ลันลาเบล เสียชีวิตจากพิษแอลกอฮอล์ แต่การพูดว่าการดื่มมากเกินไปเป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อม ไม่ค่อยจะมีคนเชื่อสักเท่าไหร่ จนกว่าคนจะวูบไปเองหลังกระดกแสงโสมเพียวๆ 

26. โรคฉี่หนู

โรคแบคทีเรียชนิดนี้เกิดจากแบคทีเรียสไปโรเชตมักพบในปัสสาวะของหนู ในประเทศไทยมีผู้รายงาน 4,000 ถึง 5,000 รายต่อปีโดยมีผู้เสียชีวิตราว 10 รายจากกรณีดังกล่าว โรคส่วนใหญ่มีผลกระทบต่อเกษตรกร แต่ด้วยจำนวนหนูที่เราเห็นการลาดตระเวนตามท้องถนนในกรุงเทพฯอย่าคิดว่าคุณปลอดภัยจากโรคในเมืองนี้

27.  โรคลมแดด (Heat Stroke) 

ด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเมืองที่ร้อนแรงที่สุดในโลกกำลังร้อนแรงขึ้น เมื่อมีความเสี่ยงสูงที่จะตายจากการสัมผัสกับความร้อน ในช่วงฤดูร้อนระหว่างปี 2558 ถึงปี 2561 มีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดดร้อนระอุจำนวน 158 คน เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพเรียกร้องให้ผู้คนดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์เมื่ออุณหภูมิสูงสุด

28. ตกตึกสูง (ตกจากที่สูง)

ฟังดูไม่น่าเกิดขึ้นง่าย ๆ นะครับ แต่คนเราชอบวิวที่ดาดฟ้า มุมสูง ๆ ตามตึก และน่าตกใจพอ ๆ กันรวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ล้มตายจากระเบียงโรงแรมเมื่อต้นปีนี้

29. ฟ้าผ่า

อันนี้ฟังดูน่าตกใจ ประเทศไทยมีอัตราสูงสุดอันดับสองของคนที่ถูกฟ้าผ่าในโลกที่สองเท่านั้นที่เม็กซิโก จากรายงานของสถาบันความปลอดภัยด้านฟ้าผ่าแห่งชาติพบว่ามีผู้เสียชีวิต 171 คนหลังจากถูกฟ้าผ่าในประเทศไทย ในปี 2561 คนเดียวฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บ 18 คนและเสียชีวิตหกคน

30. ถูกงูกัด

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีงูพิษประมาณสิบห้าสายพันธุ์ ประมาณ 30 คนเสียชีวิตจากงูกัดในประเทศไทยในขณะที่ 7,000 ได้รับบิต หากคุณเป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายโปรดวางใจได้ว่าคุณจะรอดชีวิตหากคุณได้รับการรักษาพยาบาลทันที

31. ตายจากถ่ายภาพเซลฟี่

หลายคนมีความยายามมากที่จะได้ภาพถ่ายแปลกๆ เพียงเพื่อเอามาลงอวดโชว์ในอินตาแกรม จนบางครั้งลืมเรื่องความปลอดภัยของตัวเองไป ในปี 2016 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 73 คนทั่วโลกขณะถ่ายเซลฟี่ เมื่อปีที่แล้วผู้หญิงกรุงเทพฯ เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าที่พยายามถ่ายภาพบนรางรถไฟใกล้สถานีสามเสน

ที่มาของบทความต้นฉบับ
https://bk.asia-city.com/city-living/news/31-ways-to-die-bangkok