acer เผยแนวคิด Synergized Power of Digital ลุยตลาดไอที

เอเซอร์ ชูแนวคิด Synergized Power of Digital ลุยตลาดไอที โวยังรั้งที่ 1 ไม่หลุดอันดับแชมป์ เตรียมคลอด BYOC คลาวด์ส่วนบุคคลให้ใช้งานคู่อุปกรณ์เฉพาะตัว เข้าถึงข้อมูลได้ปลอดภัยตามใจ…

นายอลัน เจียง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้เอเซอร์เตรียมรุกตลาดไอทีด้วยแนวคิด Synergized Power of Digital ซึ่งจะใช้การผสมผสานศักยภาพในด้านต่างๆ ทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐานและบริการของเอเซอร์มาให้บริการทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์และคอมเมอร์เชียล

อลัน เจียง

ส่วนสถานการณ์ตลาดคอมพิวเตอร์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เติบโตมากนักจากปัจจัยต่างๆ รวมถึงเทรนด์ความนิยมอุปกรณ์โมบิลิตี้ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของบริษัทวิจัยชั้นนำ GFK ระบุว่าหลังจบไตรมาสที่ 4 ของปี 2014 เอเซอร์ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวมอยู่ที่ 28% ยังคงเป็นอันดับ 1 ในตลาดดังกล่าว ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทในปีที่ผ่านมายังคงมาจากกลุ่มคอมพิวเตอร์พีซี (โน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อป) เป็นหลัก ด้วยจำนวนถึง 70% ตามด้วยสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต 19% และอื่นๆ อีก 11% ส่วนภาพรวมตลาดไอทีในปีนี้เชื่อว่าอาจเติบโตได้ไม่ถึง 10% ขณะที่สมาร์ทโฟนและแวร์เอเบิลก็ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เอเซอร์จะนำเสนอในปี 2015 เรายังได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานและเรียนรู้ผ่านคอมพิวเตอร์ ด้วยโซลูชั่นและอุปกรณ์ต่างๆ ของเอเซอร์ เพื่อทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบคลาวด์ส่วนบุคคล (Personal Cloud) หรือ BYOC (Build Your Own Cloud) ของเอเซอร์ ซึ่งมีความแตกต่างจากบริการคลาวด์ของผู้ให้บริการรายอื่นที่เป็นการฝากข้อมูลไว้กับระบบคลาวด์ แต่ของเอเซอร์คือการเปิดพื้นที่ให้ผู้ใช้ได้จัดเก็บข้อมูลไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวและสามารถเรียกใช้งานได้ตามต้องการ ถือเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคในการใช้บริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการประเทศไทยภายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด เอเซอร์ กล่าวว่า ส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มโน้ตบุ๊กของเอเซอร์เติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีคู่แข่งขันหลายรายหายไปจากตลาด ดังนั้น แม้ตลาดจะไม่เติบโตขึ้นแต่เราก็ยังคงได้โอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าวและอยู่ในอันดับ 1 ของตลาดอย่างต่อเนื่อง

"ภาพของเอเซอร์คือความคุ้มค่าและนั่นคือสิ่งที่เราพยายามสื่อและส่งไปยังผู้บริโภค ส่วนระดับราคาที่ได้รับความนิยมของตลาดโน้ตบุ๊กอยู่ที่ 10,000-15,000 บาท เรียกว่าเป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มผู้เริ่มต้นใช้คอมพิวเตอร์เครื่องแรก ขณะที่สถานการณ์การแข่งขันด้านราคาในปัจจุบันนั้นแต่ละรายต่างปรับลดลงเพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น แต่เชื่อว่าเราจะไม่ได้เห็นการลดราคาให้ต่ำกว่านี้อีกในสายผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก ส่วนความนิยมในตลาดสมาร์ทโฟนซึ่งเรามีส่วนแบ่งราว 5% ในตลาด คิดเป็นยอดขายราว 7 แสนเครื่อง ถือเป็นตัวเลขที่เอเซอร์พอใจเนื่องจากเพิ่งทำตลาดได้เพียง 2 ปี และกลุ่มสินค้าดังกล่าวก็เป็นเพียงสายผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มเติมเข้ามาจากธุรกิจคอมพิวเตอร์ที่เป็นสายหลักเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถเป็นผู้นำในตลาดรวมพีซีได้เช่นเดิม ทั้งยังครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ในกลุ่มโน้ตบุ๊กและวินโดวส์แท็บเล็ต และเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มเดสก์ท็อป"

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เอเซอร์ตั้งเป้าเติบโตมากกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมไอที นอกจากนี้ ก็จะขยายการเติบโตในกลุ่มคอมเมอร์เชียลและหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเร็วๆ นี้เอเซอร์เตรียมเปิดตัวโครมบุ๊ก โน้ตบุ๊กที่ใช้ระบบปฏิบัติการของกูเกิลซึ่งจะทำตลาดในราคาประหยัด เพื่อเข้าถึงโครงการกับภาคการศึกษาและภาครัฐอีกด้วย.

ที่มา https://www.thairath.co.th