Nvidia สูญเสียมูลค่าตลาดวันเดียวเฉียด 600,000 ล้านดอลลาร์ เหตุ DeepSeek กำเนิด

Nvidia สูญเสียมูลค่าตลาดวันเดียวเฉียด 600,000 ล้านดอลลาร์ เหตุ DeepSeek กำเนิด

 

Nvidia สูญเสียมูลค่าตลาดไปเกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์ ในวันจันทร์ (27 ม.ค.68) ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในวันเดียวในประวัติศาสตร์บริษัทเอกชนของสหรัฐ หลังจาก DeepSeek ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต้นทุนต่ำของจีนเขย่าตลาดโลก

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า "ราคาหุ้น Nvidia" บริษัทผู้ผลิตชิปร่วงลง 17% ปิดที่ 118.58 ดอลลาร์ นับเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดของ Nvidia ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการระบาดของโควิด หลังจากที่ Nvidia แซงหน้า Apple

ในสัปดาห์ที่แล้ว และกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สูงสุด การร่วงลงของหุ้นในวันจันทร์ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ซึ่งเน้นด้านเทคโนโลยีร่วงลง 3.1%

การเทขายหุ้นดังกล่าวเกิดจากความกังวลว่าห้องปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์ของจีน DeepSeek กำลังสร้างกระแสการแข่งขันที่สูงขึ้นในการต่อสู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก โดยในช่วงปลายเดือนธันวาคม DeepSeek ได้เปิดตัวโมเดลภาษาโอเพนซอร์สขนาดใหญ่ให้คนใช้ฟรี บริษัทอ้างว่าใช้เวลาเพียงสองเดือน และเงินลงทุนน้อยกว่า 6 ล้านดอลลาร์ในการสร้างขึ้น โดยใช้ชิปที่จำกัดขีดความสามารถลงจาก Nvidia ที่เรียกว่า H800s

หน่วยประมวลผลกราฟิกหรือ GPU ของ Nvidia ครองตลาดชิปศูนย์ข้อมูล AI ในสหรัฐอเมริกา โดยยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Alphabet, Meta และ Amazon ใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการซื้อโปรเซสเซอร์เพื่อฝึกอบรม และรันโมเดล AI ของตน

นักวิเคราะห์ของ Cantor เขียนในรายงานเมื่อวันจันทร์ว่าการเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดของ DeepSeek ทำให้เกิด “ความวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบต่อความต้องการในการประมวลผล และด้วยเหตุนี้จึงเกิดความกลัวว่าการใช้จ่ายสำหรับ ชิปประมวลผลกราฟิก GPU ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว”

 นักวิเคราะห์กล่าวว่า พวกเขา “คิดว่ามุมมองนี้ห่างไกลจากความจริงมากที่สุด” และความก้าวหน้าใน AI น่าจะนำไปสู่ ​​“อุตสาหกรรม AI ต้องการความสามารถในการประมวลผลที่มากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง” พวกเขาแนะนำให้ซื้อหุ้น Nvidia

แต่หลังจากที่ Nvidia พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยหุ้นพุ่งขึ้น 239% ในปี 2023 และ 171% ในปี 2024 ตลาดก็กังวลว่าจะเกิดการถอนตัวของการใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ 

ด้านหุ้นของ Broadcom ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐที่มูลค่าเพิ่มมหาศาลจาก AI ร่วงลง 17% ในวันจันทร์ ทำให้มูลค่าตลาดหายไป 200,000 ล้านดอลลาร์

บริษัทศูนย์ข้อมูลที่ต้องพึ่งพา GPU ของ Nvidia สำหรับการขายฮาร์ดแวร์ก็พบว่า หุ้นถูกขายออกจำนวนมาก เช่นกัน Dell, Hewlett Packard Enterprise

และ Super Micro Computer ร่วงลงอย่างน้อย 5.8% และหุ้นของ Oracle

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ AI ล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ร่วงลง 14%

สำหรับ Nvidia การสูญเสียนั้นมากกว่าสองเท่าของมูลค่าที่บริษัทต้องสูญเสียไป 279,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นการสูญเสียมูลค่าตลาดในวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในขณะนั้น แซงหน้าการสูญเสียมูลค่า 232,000 ล้านดอลลาร์ของ Meta ในปี 2022 และก่อนหน้านั้น การสูญเสียมูลค่าสูงสุดคือ 182 พันล้านดอลลาร์ของ Apple ในปี 2020

การลดลงของมูลค่าตลาดของ Nvidia นั้นมากกว่ามูลค่าตลาดของ Coca-Cola และ Chevron เป็นสองเท่า และเกินมูลค่าตลาดของทั้ง Oracle และ Netflix

ความมั่งคั่งของ เจนเซน หวง ซีอีโอก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน โดยมูลค่าสินทรัพย์ของเขาลดลงประมาณ 21,000 ล้านดอลลาร์ ตามรายชื่อมหาเศรษฐีแบบเรียลไทม์ของ Forbes การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ หวง ตกมาอยู่อันดับที่ 17 ในรายชื่อบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลก

ความตื่นเต้นอย่างกะทันหันเกี่ยวกับ DeepSeek ในช่วงสุดสัปดาห์ทำให้แอปของบริษัทแซงหน้า ChatGPT ของ OpenAI ขึ้นเป็นแอปฟรีที่มีคนดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาบนแอปสโตร์ของ Apple การพัฒนาโมเดลดังกล่าวเกิดขึ้นแม้สหรัฐจะใช้มาตรการจำกัดการส่งออกชิปของสหรัฐ ไปยังจีนเมื่อไม่นานมานี้

เดวิด แซ็กส์ นักลงทุนร่วมทุน ซึ่งทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ควบคุมดูแล AI และสกุลเงินดิจิทัลของทำเนียบขาว โพสต์ลงบน X ว่าโมเดลของ DeepSeek “แสดงให้เห็นว่าการแข่งขัน AI จะเข้มข้นมากขึ้น” และทรัมป์ก็ทำถูกต้องแล้วที่ยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเกี่ยวกับความปลอดภัยของ AI เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แซ็กส์เขียนว่า “ผมมั่นใจในสหรัฐ แต่เราไม่สามารถนิ่งนอนใจได้”

ปัจจุบัน Nvidia เป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับสาม รองจาก Apple และ Microsoft


ที่มา: bangkokbiznews.com/world/1164029