น้ำผึ้ง ความหวานที่ไม่ทำให้อ้วน (Honey)

หากพูดถึง น้ำผึ้ง หลายคนคงนึกถึงรสชาติหอมหวานแสนอร่อยมีกลิ่นรสเฉพาะตัว เป็นผลิตผลของน้ำหวานจากดอกไม้ที่คนเรามักใช้ผสมในอาหารหลายชนิด คุณสมบัติของน้ำผึ้งนั้นมีมากมาย น้ำผึ้งประกอบไปด้วยสารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น สารแอนติออกซิเดนท์ สารอินฮิบิทที่มีผลต่อต้านเชื้อโรค โปรตีน วิตามินบีคอมเพล็กซ์ และยังมีฟอสฟอรัส แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม โซเดียม สังกะสี เหล็ก แมงกานีส ทองแดง เกลือแร่ และกรดอะมิโน ที่ช่วยละลอความเสื่อมของเซลล์ แร่ธาตุเหล่านี้จะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายและช่วยบำรุงโลหิต

น้ำผึ้งยังสามารถใช้แทนน้ำตาลสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปสร้างพลังงานได้ทันที และทำให้น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางกายภาพอื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น ดูดความชื้นจากบรรยากาศได้ดี จึงนิยมนำไปเป็นส่วนผสมในการอบขนมแทนน้ำตาลทราย คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งต่อร่างกาย มีดังนี้

1. คลายความเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียจากการทำงานหนัก เล่นกีฬา อดนอน หรือดื่มสุรา

2. ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แก่ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยระยะพักฟื้น

3. บำรุงประสาทและสมองให้สดชื่น แจ่มใส

4. ช่วยระงับประสาทและอาการหงุดหงิด

5. บรรเทาอาการไอและหวัด

6. แก้ความดันโลหิตสูง

7. ลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยให้อาหารย่อยดีขึ้น ท้องไม่ผูก

8. แก้เด็กปัสสาวะรดที่นอน เนื่องจากน้ำผึ้งมีน้ำตาลฟรุกโตสที่สามารถดูดความชื้นได้ดีกว่าน้ำตาลชนิดอื่น

9. แก้โรคโลหิตจาง เนื่องจากน้ำผึ้งมีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นองค์ประกอบของฮีโมโกลบิน ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดแดง

10. ช่วยปรับสมดุลร่างกายและควบคุมน้ำหนัก ใครที่เป็นตะคริว ปวดข้อ หรือเป็นโรคอ้วน ให้ผสมน้ำผึ้ง 3 ช้อนชา กับน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล 3 ช้อนชา และน้ำเปล่า 1 แก้ว ดื่มแทนน้ำ

11. ทำให้นอนหลับสบายขึ้น เพียงผสมน้ำผึ้งกับน้ำอุ่นหรือนมร้อนดื่มก่อนนอน

12. บำรุงผิวหน้าให้สวยใส โดยนำกล้วยหอม 1/2 ลูก มาบดผสมกับน้ำผึ้งมาทาทิ้งไว้บนหน้าสัก 10-15 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยรักษาความชุ่มชื้น และทำให้ผิวหน้านุ่มนวลขึ้น

13. ทำให้ผมนุ่มนวลสลวยเงางาม หลังสระผมให้นำน้ำผึ้งผสมกับน้ำมะกอกอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ มาชโลมบนผมแล้วทิ้งไว้สัก 3-5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผมของคุณจะนิ่ม และเงางามตามธรรมชาติปราศจากสารเคมีใดๆ

ว่าแล้วก็หันมารับประทานน้ำผึ้งกันเถอะ เพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง สดชื่น มีชีวิตชีวาขึ้นนะ

ที่มา Gymlism