บนเฟซบุ๊กจะมีคนที่ตายแล้วมากกว่าคนที่ยังมีชีวิตอยู่

สิ้นศตวรรษนี้’เฟซบุ๊ก’มี’คนตาย’มากกว่า’คนเป็น’
ผู้เขียน พี่ศรีหนุ่ย  คอลัมน์ ไซเบอร์ทีน มติชนรายวันหน้า 18

มาเรื่องของเครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตอย่าง “เฟซบุ๊ก” กันอีกครั้ง เพราะมีข้อมูลที่น่าสนใจ เป็นการรวบรวมสถิติโดยนักสถิติชาวอเมริกัน ที่บอกไว้ว่าภายในสิ้นศตวรรษนี้ หรือภายในปี ค.ศ.2100 ผู้ใช้งานบนเฟซบุ๊กจะเป็นคนที่ตายแล้วมากกว่าคนที่ยังมีชีวิตอยู่ อันเนื่องมาจากการที่เฟซบุ๊กไม่ได้ทำการลบบัญชีของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นภายในปี ค.ศ.2098 จะมีบัญชีเฟซบุ๊กของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วมากกว่าของคนที่ชีวิตอยู่ และเมื่อถึงตอนนั้น เฟซบุ๊กก็จะกลายเป็น “หลุมศพเสมือนจริง” ไปในที่สุด

ฟังดูออกแนวน่ากลัว แต่เอาจริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรมาก มาดูที่มาที่ไปกันดีกว่า

ข้อมูลเหล่านี้มาจากการคำนวณของ ฮาเชม ซาดิกกี นักสถิติและนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ที่ทำการจำลองรูปแบบโดยอ้างอิงจากฐานข้อมูลของอัตราการเติบโตของการใช้งาน เฟซบุ๊ก ข้อมูลทางประชากรศาสตร์ และอัตราการเสียชีวิต รวมทั้งอ้างอิงจากพื้นฐานของการใช้เฟซบุ๊กและความเติบโตที่เป็นไปได้ในอนาคต อันใกล้

ดูอาจจะยุ่งยากเสียหน่อย แต่นักสถิติเขาคำนวณเขามีหลักในการคิดของเขาอยู่ แล้วก็แปลงข้อมูลทุกอย่าง แปลออกมาเป็นข้อความให้เราเข้าใจกัน

แต่โดยสรุปก็คือ ปัจจุบัน เฟซบุ๊กมีอยู่ใช้งานที่ยังคงแอคติเวต คือใช้งานอยู่เป็นประจำกว่า 1.5 ล้านราย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มคนที่ยังอายุไม่มาก โดยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก อายุไม่ถึง 35 ปี และที่อายุเกิน 65 ปีนั้น ก็มีอยู่ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์

และตามข้อมูลของบริษัท ดิจิตอล บียอนด์ ระบุไว้ว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กในสหรัฐอเมริกาจำนวน 972,000 คน จะตายลงในปี 2016 นี้

ซึ่งเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กเสียชีวิตลง บนหน้าเฟซบุ๊กของบุคคลนั้น ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงสามารถเข้าไปตั้งทำเป็นหน้าเฟซบุ๊กเพื่อรำลึกการเสีย ชีวิตของเจ้าของเฟซบุ๊กได้ และหน้าเฟซบุ๊กนั้นก็จะไม่มีกิจกรรมปกติเหมือนกับคนอยู่ทั่วไป อย่างเช่นการแนะนำเพื่อน หรือการแจ้งเตือนวันเกิด

แต่ถ้าหากไม่มีการ ตั้งเฟซบุ๊กของคนคนนั้นเป็นเฟซบุ๊กเพื่อการรำลึกถึงแล้ว เฟซบุ๊กนั้นก็ยังคงแอ๊กทีฟอยู่ ก็คือดูเหมือนยังมีการใช้งานอยู่ ดังนั้นเฟซบุ๊กก็จะคิดว่าบัญชีนี้ผู้ใช้ยังมีชีวิตอยู่ ก็จะมีทั้งการแจ้งเตือนวันเกิด แจ้งเตือนกิจกรรมต่างๆ อยู่ตลอดเวลา

และแน่นอนว่าหากญาติพี่น้องอยากจะลบบัญชีเฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิต ก็ต้องมีรหัสผ่านเพื่อเข้าไป ซึ่งก็แน่นอนอีกว่ายากนักที่ใครจะรู้

จากตัวเลขเหล่านี้เอง ทำให้เชื่อว่าจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ตายไปโดยที่ยังมีบัญชีเฟซบุ๊กอยู่ และเฟซบุ๊กเองก็คิดว่าบัญชีนั้นยังคงแอ๊กทีฟอยู่ และนี่เองที่ทำให้ “เฟซบุ๊ก” จะเต็มไปด้วยบัญชีของคนที่ตายไปแล้วและถูกทิ้งร้างไว้

ที่สุดแล้วเฟซบุ๊กก็จะกลายเป็น “สุสานเสมือนจริง” ของคนในอนาคต และบัญชีเหล่านี้ ก็จะมีมากกว่าบัญชีของคนที่ยังมีชีวิตอยู่

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของสถิติตัวเลขมากมาย แต่ก็เป็นเรื่องน่าคิดว่า ถ้าวันหนึ่งที่เราไม่อยู่แล้ว เฟซบุ๊กของเราจะเป็นอย่างไร 

ที่มา: