มาดูวิธีรับมือน้ำท่วม เพื่อความปลอดภัยของคน บ้าน และทรัพย์สิน

วิธีรับมือน้ำท่วม เพื่อความปลอดภัยของคน บ้าน และทรัพย์สิน

น้ำท่วม ทำยังไงดี ? มาดูวิธีรับมือน้ำท่วม เคล็ดลับเตรียมความพร้อมทั้งก่อนและระหว่างเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัยของคน บ้าน และทรัพย์สิน

วิธีรับมือน้ำท่วม

เพราะ "น้ำท่วม" เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งฝนตกหนัก พายุเข้า ลมมรสุม การตัดไม้ทำลายป่า สิ่งก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ หรือแม้กระทั่งอ่างเก็บน้ำแตก ฉะนั้นจึงเป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในประเทศไทย ที่สำคัญสร้างความเสียหายต่อบ้าน ชีวิต และทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทางเราได้รวบรวมวิธีรับมือกับน้ำท่วมมาฝากกัน โดยมีทั้งการเตรียมความพร้อมก่อนเกิดน้ำท่วม การเตรียมรับมือเมื่อรู้ว่าจะเกิดน้ำท่วม และการปฏิบัติตัวเมื่อน้ำท่วมฉับพลัน หรือต้องอพยพฉุกเฉินเลย

ระดับการเตือนภัยน้ำท่วม

การแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมแบ่งออกเป็น 4 ระดับด้วยกัน ดังนี้

          1. เฝ้าระวังอุทกภัย : ระดับที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดน้ำท่วมและอยู่ในระหว่างการสังเกตการณ์
           2.การเตือนภัย : การเตือนภัยว่าจะเกิดน้ำท่วมแน่นอน และให้รับมือเตรียมพร้อมป้องกันตัวเองและทรัพย์สิน
           3.อพยพทันที : แจ้งเตือนเมื่อเกิดน้ำท่วมรุนแรง
           4.การกลับเข้าสู่ภาวะปกติ : การแจ้งเตือนเมื่อเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติหรือเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 

โดยสามารถติดตามระดับน้ำจากสถานนีวัดน้ำในจังหวัดต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ผ่านเว็บไซต์คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ www.thaiwater.net

วิธีเตรียมความพร้อมก่อนเกิดน้ำท่วม

1.ติดตามเฝ้าระวังภัย

          หมั่นติดตามข่าวสาร พยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอยู่เสมอ เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ  

2.สังเกตจากธรรมชาติ

          ให้ความสนใจความเปลี่ยนแปลงจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างที่สามารถบอกเหตุได้ เช่น ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง หรือน้ำในคลองขึ้นสูงผิดปกติ เป็นต้น

3.จัดเตรียมอุปกรณ์

          หากสถานการณ์ดูท่าจะไม่ค่อยดี ให้กักตุนข้าวของเครื่องใช้จำเป็นไว้ โดยควรแพ็กใส่กระเป๋าฉุกเฉินและแยกสำหรับแต่ละคนให้เรียบร้อย

4.สำรวจเส้นทางอพยพ

          มองหาสถานที่ปลอดภัยและศึกษาข้อมูลในพื้นที่ว่าใช้ที่ไหนพักอาศัยระหว่างน้ำท่วม พร้อมแจ้งรายละเอียดให้คนในครอบครัวทราบ หรือถ้าเป็นไปได้ควรเชิญชวนสมาชิกในบ้านมาทำแผนรับมือเตรียมไว้จะดีที่สุด
 

5.บันทึกช่องทางติดต่อขอความช่วยเหลือและเตือนภัย

          เก็บเบอร์สายด่วนต่าง ๆ เว็บไซต์เตือนภัย และแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาไว้ เช่น 192 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ, 1784 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, 1199 ศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ, 1196 อุบัติเหตุทางน้ำ, 1669 บริการแพทย์ฉุกเฉิน, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เป็นต้น

สนับสนุนเนื้อหา: