มาแรง HTC DESIRE 826 DUAL SIM กล้องหน้า 13MP รองรับ 4G LTE พร้อมระบบสองซิม

อีกรุ่นมาแรงในเดือนนี้ HTC Desire 826 dual sim ที่ทำสเปคออกมาเหมือนจะบี้รุ่นพี่เสียเอง โดยมีจุดเด่นคือเรื่องของกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกับกล้องหลัง หน้าจอขนาด 5.5″ ขนาดเครื่องใหญ่สะใจ เป็น Unibody แบบโพลีคาร์บอเนต และยังรองรับ 4G LTE พร้อมระบบสองซิมด้วย ชิปเซ็ตก็เป็น 64-bit แล้วนั่นเอง ส่วนซอฟท์แวร์เป็นของใหม่ Android 5.0.2 Lollipop เลย

สเปคคร่าวๆ ของ HTC Desire 826 dual sim

• หน้าจอ : Super LCD3 5.5 นิ้ว FHD (Full HD) (1920 x 1080 พิกเซล)
• ซีพียู : Snapdragon 615 Quad-core 1.7 GHz Cortex-A53 & quad-core 1.0 GHz Cortex-A53
• แรม : 2GB
• ระบบปฏิบัติการ : Android 5.0 Lollipop
• กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล / LED Flash
• กล้องหน้า : 13 ล้านพิกเซล
• หน่วยความจำภายใน : 16 GB เพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 128GB
• ลำโพงเสียง : BoomSound + Dolby Audio Surround
• เน็ตเวิร์ก : 4G LTE FDD, Dual SIM Standby
• แบตเตอรี่ : Li-Po 2600 mAh

ดูสเปคแล้วถือว่าดีพอสมควรเทียบกับรุ่นพี่ HTC Desire Eye อาจสู้ไม่ได้แต่ซอฟท์แวร์ต่างๆ ดูใหม่กว่า และชิปเซ็ตแบบ 64-bit ด้วย ซึ่งน่าจะทำงานได้ดีไม่แพ้กัน ที่แตกต่างกันชัดเจนคือเรื่องของขนาดที่ใหญ่กว่า และไม่ได้รองรับการกันน้ำกันฝุ่นนั่นเอง รวมถึงกล้องหน้าที่ไม่ได้มีแฟลชทูโทนมาให้ครับ

ตัวเครื่องมองแว้ปแรกคล้ายกับรุ่นพี่มากๆ สีสันแบบทูโทน รายละเอียดตัวเครื่องต่างๆ ออกมาแบบเดียวกัน จริงๆ น่าจะรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นไปด้วยเลย ขนาดเครื่องค่อนข้างใหญ่เท่าๆ กับ Galaxy Note 4 เลย แต่สูงกว่านิดหน่อยครับ ใครเน้นใหญ่สะใจน่าจะถูกใจกัน

หน้าจอ Super LCD3 5.5 นิ้ว FHD แสดงผลสไตล์เดิมๆ สีสันคมอยู่และออกโทนสว่าง เทียบกับจอ AMOLED รายหลังสีสดสวยกว่าหน่อย จริงๆ ก็แล้วแต่ชอบนะ มุมมองของจอดีเลิศ ความสว่างก็เยี่ยมใช้งานกลางแจ้งถือว่าดีเลย สัมผัสไวแม่นยำดี แตะได้ 5 จุดพร้อมกัน

เครื่องด้านหน้าเอกลักษณ์ที่แตกต่างคือไม่มีแฟลช Duo-tone แบบรุ่นพี่ แต่ยังเป็นเลนส์ 13MP เหมือนเดิม มีเซ็นเซอร์ต่างๆ และช่องลำโพงซ่อนอยู่ตรงเหมือนรอยต่อ บน-ล่าง เห็นเล็กๆ แบบนี้เสียงดีมากเลยทีเดียว และ HTC ก็หันมาใช้ปุ่ม Onscreen ทั้งหมดแล้วตามสไตล์

ขอบข้างเป็นสีทูโทนเครื่องที่ได้มาสีฟ้าสวยๆ พื้นผิวแบบเทฟลอน มีปุ่มพาวเวอร์กับปรับเสียงด้านขวา ด้านซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM สองช่อง และ MicroSD 1 ช่องต้องแกะฝาปิดออกก่อน และรุ่นนี้ทำมาดีครับ มีถาดให้ดึงออกมาเสียบ ง่ายกว่าพวกใช้สปริงที่ต้องกดเข้ากดออกลึกๆ

ด้านบนมีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างมีแค่พอร์ท micro USB เท่านั้น

ด้านหลังก็มีแค่เลนส์กล้องกับแฟลช LED ธรรมดา และรูไมโครโฟนตัดเสียง ส่วนไมโครโฟนหลักคงซ่อนอยู่กับช่องลำโพงสเตอริโอด้านล่าง

ลำโพง BoomSound พร้อมระบบเสียง Dolby Audio Surrond ของเค้าเจ๋งจริงครับ ช่องเล็กๆ แต่เปิดเสียงมาแล้วเป็นปลื้ม คือเสียงดีจริงๆ ดังมีพลังใส่กิ๊ง ในมือมีมาใช้งานหลายเครื่อง เล่นเอารุ่นอื่นๆ เทียบไม่ติดนะเรื่องเสียง หน้าจอใหญ่ๆ คมชัด กับลำโพงเสียงชั้นยอดของคู่กับ ดูหนังเพลินๆ

HTC Desire 826 dual sim รุ่นนี้เป็น Android 5.0.2 Lollipop แล้ว และโปะหน้าด้วย HTC Sense UI 6.0 ซึ่งใหม่เอี่ยมน่าใช้งานเป็นที่สุด การทำงานก็ไหลลื่นดีเยี่ยมนะ

UI แตกต่างไปนิดหน่อย โดยบน Lollipop จะมีแจ้งเตือบน Lockscreen แบบใหม่ เรียงๆ ให้กดดูได้ง่าย ใช้หน้าจอให้เป็นประโยชน์ โดยยังมี Notifications ที่ซ่อน Quick settings ไว้ต้องดึงลงมาอีกรอบนึงครับ ส่วน Multi-task เซ็งหน่อยไม่มีทางลัดปิดทั้งหมด ต้องไล่ปิดทีละอัน

ประสิทธิภาพเครื่องถือว่าเยี่ยมครับ Snapdragon 615 Octa-core 1.7GHz พร้อมด้วย RAM 2GB กับหน่วยความจำภายใน 16GB แต่เพิ่ม Micro SD ได้สูงสุด 128GB เลยทีเดียวครับ เท่าที่ลองใช้งานลื่นไหลปกติไม่แฮงค์ และไม่ร้อนจัดอย่างที่คิด มันแปลกอีกนิดตรงที่ว่าเวลาร้อนจัดๆ จะร้อนที่หน้าจอไม่ใช่หลังเครื่อง ส่วนคะแนนทำได้ถึง 37,000 คะแนน ทดสอบแบบ 64-bit แล้วด้วย

เอามาเล่นเกมส์จัดเต็มได้เลย Dream League Soccer ลื่นๆ ไม่กระตุก ภาพสมูท แต่เล่นเกมส์นานๆ แอบความร้อนขึ้นนะตรงนี้ แต่ไม่ได้มากมายนัก

ดูหนังอันนี้ชอบมากสำหรับ HTC Desire 826 dual sim เพราะหน้าจอใหญ่ ชัด แสดงผลดี และยังมีลำโพงชั้นยอดอีก ไม่รู้จะบรรยายยังไง แต่ตรงนี้เต็มสิบเอาไป 9.5 ดูหนังมันส์ดีแต่ต้องไปดาวน์โหลดแอพดูหนังเพิ่มเติมเอาสักหน่อยครับ

HTC Desire 826 dual sim ยังรองรับ 4G LTE พร้อมด้วยระบบสองซิมการ์ดทำงานพร้อมกันอีกด้วยนะ ใครมีสองเบอร์ และใช้ 4G รุ่นนี้ลงล็อคเป๊ะ รองรับคลื่น 900 / 1800 / 2100 / 2600 MHz น่าเสียดายไม่รองรับ NFC และยังรองรับ USB OTG อยู่นะ อื่นๆ ก็มีหมด WiFi Direct, Hotspot รวมถึง Bluetooth 4.0 และ GPS, A-GPS, GLONASS ส่วนซิมใช้เป็น Nano SIM ทั้งคู่

ใช้เล่นบราวเซอร์ก็ถือว่าดี ชัดเต็มตา ประสิทธิภาพเครื่องแจ่มอยู่ ซึ่งตรงนี้มีทั้ง Android Browser และ Google Chrome ให้เลือกใช้ และยังเปลี่ยนเป็นแบบ Lollipop แล้วที่ไม่มี Multi-window แต่จะแยกเซสชั่นไปเลย ผมว่าก็ดีนะไม่กินแรมมากไป

ด้านโซเชียลก็รองรับหมดครับ อันไหนไม่มีติดเครื่องก็สามารถดาวน์โหลดกันได้จาก Google Play Store ไม่ว่าจะเป็น LINE, Instagram, Facebook หรือ Twitter ใช้ประจำบนเครื่องนี้สบายมาก

กล้องหลักเป็นเลนส์ 13 ล้านพิกเซล F/2.2 ที่มาพร้อม LED Flash ฟีเจอร์คล้ายรุ่นพี่หมด มีโหมดถ่ายภาพต่างๆ ปรับ ISO, EV, White balance และ Scene ภาพ ถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ Burst shot ได้ และถ่ายวิดีโอได้แบบ Full HD ส่วนโหมดหลักๆ ก็มี Photo booth, Selfie, Split camera นั่นเอง ซึ่งคุณภาพของภาพถ่ายจากกล้อง

กล้องหน้าเป็นเลนส์ 13 ล้านพิกเซลเช่นกัน แต่ไม่มีแฟลชนะ อันนี้จะมีโหมดบิวตี้ที่ให้เลือกปรับระดับ ซึ่งแสดงผลแบบเรียลไทม์ มีโหมดถ่ายภาพแบบ Auto selfie, Voice selfie, Touch to capture และสามารถ Save mirror image ได้ด้วย

ตัวเซ็นเซอร์มีรูรับแสง F/2.0 เก็บภาพได้สว่างกว่าซะงั้นล่ะ ลองดูภาพตัวอย่างกันเลย

แบตเตอรี่ความจุ 2,600 mAh ถือว่าไม่ได้สูงนักสำหรับเครื่องขนาดเท่านี้ หน้าจอ 5.5″ Full HD กับฟีเจอร์ 4G LTE กับระบบสองซิมด้วย มองยังไงก็น่าจะโดนสูบอย่างไว แต่เท่าที่ลองใช้มาก็ยังไม่ได้เลวร้ายนัก ถือว่ายังสอบผ่านฉิวเฉียด คืออยู่ได้ 6-8 ชั่วโมงครับ แต่ถ้าเล่นเกมส์กับดูหนังเยอะก็หมดไวกว่านั้นมากพอสมควรเลยด้วย

สรุป HTC Desire 826 dual sim คือคู่แข่งตัวฉกาจของมือถือเน้นเซลฟี่ในราคาหมื่นต้น เพราะเปิดราคาที่ 12,490 บาท แต่จัดเลนส์กล้องสองตัวคมๆ ฟีเจอร์ดี แถมสเปคเครื่องยังจัดว่าดีมาก ถ้าไม่ได้ซีเรียสอยากจะใช้มือถือที่เป็นบอดี้โลหะ นี่ถือว่าใช่มาก ติดที่ว่าขนาดอาจจะใหญ่ไปหน่อยสาวๆ อาจจะไม่ได้ชอบพกกันสักเท่าไหร่

ดังนั้นมองว่ามันคือสมาร์ทโฟนเน้นด้านมัลติมีเดีย และการถ่ายภาพครับ จุดที่ชอบสุดคือลำโพงเสียงกับหน้าจอที่ดูหนังได้สะใจจริงๆ รวมถึง 4G กับระบบสองซิมด้วย ส่วนกล้อง Selfie ไม่ต้องพูดถึงคมชัดถูกใจแน่นอน มี Beauty mode แบบ Real-time ให้ดูเลยด้วย ดังนั้นฝากรุ่นนี้ไว้ในอ้อมใจลองจับลองเล่นตัวจริงกันดูสักทีครับ

ขอขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก :