รวม 8 วิธีหลอกลวงของโรแมนซ์สแกม ในช่วงวันวาเลนไทน์

รวม 8 วิธีหลอกลวงของโรแมนซ์สแกม ในช่วงวันวาเลนไทน์


“Romance Scam” หรือ การหลอกรักออนไลน์ คือ การที่มิจฉาชีพ จะหลอกให้เหยื่อหลงรักเชื่อใจ หลอกถึงเรื่องการแต่งงาน วาดฝันการอยู่ด้วยกันตลอดไปและใช้ความรัก-ความเชื่อใจ หรือ ความหวังของ “เหยื่อ”เพื่อแสวงหาประโยชน์ 

ซึ่งไม่ต่างกับหลอกลวงออนไลน์รูปแบบอื่นๆ เพราะปลายทาง คือ หลอกให้โอนเงินหรือทรัพย์สิน เพียงแต่ มิจฉาชีพใช้วิธีอ้างถึงปัญหาการเงินหรือชวนลงทุน

จะพบว่า ในช่วงเดือนแห่งความรัก หรือ ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ที่ผู้คนมักจะรู้สึกอยากแบ่งปันความรักและความอบอุ่นให้แก่กัน กลายเป็นโอกาสให้ “มิจฉาชีพ” หลอกลวงเหยื่อได้ง่ายกว่าปกติ เนื่องจาก

• ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ผู้คนมักจะรู้สึกเหงาหรือหากระแสความรัก บางคนอาจมองหาคู่หรือคนที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ให้เต็มเติมความรู้สึก การอยู่ในสภาวะอารมณ์นี้ทำให้เหยื่ออาจจะเปิดใจมากขึ้นและตัดสินใจเชื่อคนง่ายๆ
• หลายคนคาดหวังว่าจะได้รับความรักหรือความสนใจในช่วงเทศกาลนี้ มิจฉาชีพมักใช้ความหวังและความคาดหวังนี้เพื่อดึงดูดเหยื่อ โดยการแสร้งสร้างตัวตนที่น่าสนใจหรือมีความรู้สึกพิเศษเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ
• เป็นช่วงที่ผู้คนอาจจะใช้เวลาในโซเชียลมีเดียหรือแอปพลิเคชันหาคู่มากขึ้น ทำให้มิจฉาชีพมีโอกาสมากขึ้นในการติดต่อกับเหยื่อผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, หรือแอปหาคู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มิจฉาชีพสามารถปลอมตัวได้ง่าย
• มิจฉาชีพมักจะสร้างความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดและเร่งรัด เพื่อให้เหยื่อรู้สึกว่าเป็นคู่รักหรือคนสำคัญ ด้วยวิธีการพูดจาให้ดูอบอุ่น รู้สึกพิเศษ จนทำให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือทรัพย์สินให้มากขึ้น
• โอกาสในการสร้างความเร่งรีบ โดยในหลายๆ กรณี มิจฉาชีพจะสร้างสถานการณ์ที่เร่งรีบในช่วงวันวาเลนไทน์ เช่น บอกว่าต้องการให้ของขวัญหรือการช่วยเหลือที่จำเป็นในช่วงเวลาเฉพาะ ทำให้เหยื่อไม่ทันระวังและตัดสินใจผิดพลาด

8 วิธีหลอกลวง ของ”มิจฉาชีพ” ในช่วงวันวาเลนไทน์ 

สำหรับกลอุบายของมิจฉาชีพที่เข้ามาหลอกลวงมักจะมาด้วยกลอุบาย ดังต่อไปนี้ 

1. หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (Hybrid scam) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ปลอมด้วยการโอนเงินหรือลงทุนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล
2. หลอกให้รักแล้วกดลิงก์/ดาวน์โหลดแอปรีโมท (Remote access scam) ควบคุมสมาร์ตโฟนและทำการดูดเงินในบัญชี
3. หลอกให้รัก ให้ถ่ายรูปลับส่วนตัว แล้วแบล็กเมล์ (Sextortion) ขู่กรรโชกทางเพศ ด้วยการชวนทำกิจกรรมทางเพศผ่านทางออนไลน์ แล้วนำภาพหรือวิดีโอมาขู่เรียกค่าไถ่ หรือบีบบังคับให้กระทำการอื่นๆ
4. มิจฉาชีพที่เป็นชาวต่างชาติจะทำทีมาจีบและให้ความหวังว่าอยากจะมาแต่งงานที่เมืองไทย และส่งทรัพย์สินให้ แต่ต้องชำระเงินค่าภาษีก่อน และขอให้ท่านช่วยชำระภาษีให้ก่อน
5. มิจฉาชีพแสดงตัวว่าได้รับมรดกเป็นเงินมหาศาล แต่ต้องชำระภาษีมรดก ขอให้ท่านช่วยชำระภาษี
6. ป่วยหนัก แต่ประกันยังเบิกจ่ายไม่ได้
7. ส่งของรางวัลราคาแพงมาให้ แต่ติดอยู่ที่ด่านตรวจ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน ขอให้ท่านโอนเงินเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมรางวัลก่อน
8. เป็นนักธุรกิจชาวต่างชาติที่จะมาลงทุน แต่ต้องการให้ร่วมทุนด้วย

ทั้งนี้ ต้องระมัดระวัง อย่าหลงกล ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า หากมีการเชิญชวนให้โหลดแอปพลิเคชัน เล่นเกมผ่านเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงหากต้องการซื้อช่อดอกไม้จากร้านค้าออนไลน์ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ขอให้ตรวจสอบแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และร้านดอกไม้ที่น่าเชื่อถือ ก่อนจะชำระเงินหรือโอนเงินไปยังปลายทาง เพื่อป้องกันความเสียหายในการชำระเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพ

หากถูกมิจฉาชีพหลอกแล้ว ต้องทำอย่างไร ? 

• ถูกหลอกลวงออนไลน์ต่างๆ หรือพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ทางสายด่วนโทร 1212 ตลอด 24 ชั่วโมง
• หากโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441 และสามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111
• เก็บหลักฐานการโอนเงิน และเก็บภาพข้อความการพูดคุยกับคนร้ายผ่านช่องทางต่าง ๆ เก็บชื่อบัญชี ภาพโปรไฟล์ และข้อมูลของคนร้ายไว้ให้มากที่สุด นำไปแจ้งความกับสถานีตำรวจเพื่อดำเนินคดีหรือโทรสายด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 หรือสายด่วน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599
• แจ้งความออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ตลอด 24 ชั่วโมง
• แจ้งเบาะแสมายังสภาองค์กรของผู้บริโภคได้ที่เบอร์สายด่วน 1502

ที่มา: thairath.co.th/money/economics/thailand_econ/2840983