รู้ทันเทคโนโลยี CEO Intel เผยวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของเทคโนโลยีสำหรับการประมวลผล

ซีอีโออินเทล เผยวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของเทคโนโลยีสำหรับการประมวลผล

ประกาศความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุปกรณ์ Wearable กับโอคเล่ย์*
พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กเท่าเม็ดกระดุม อินเทล® เคียวรี่™

พร้อมเดินหน้าลงทุน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อส่งเสริมความหลากหลายในภาคแรงงานทั้งภายในองค์กรและอุตสาหกรรมไอทีในภาพรวม ภายใต้เป้าหมายใหม่ด้านการจ้างงาน

กรุงเทพฯ – 13 มกราคม 2558 – ในงานอินเตอร์เนชั่นแนล คอนซูมเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ อินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้เผยโฉมเทคโนโลยีล้ำยุคและโครงการวิจัยล่าสุดเพื่อยกระดับเทคโนโลยีการประมวลผลให้ก้าวเข้าสู่มิติใหม่อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ขนาดจิ๋วสำหรับอุปกรณ์ Wearable อย่าง อินเทล® เคียวรี่™ (Intel® Curie™) หรือแอพพลิเคชั่นใหม่มากมายสำหรับระบบกล้อง อินเทล® เรียลเซ้นส์™ (Intel® RealSense™) ที่ใช้งานได้ทั้งในหุ่นยนต์ โดรน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่สร้างประสบการณ์การใช้งานแบบสามมิติ นอกจากนี้ อินเทลยังได้เปิดตัวโครงการ Diversity in Technology ซึ่งมุ่งส่งเสริมความหลากหลายในองค์กรสำหรับทั้งอินเทลเองและภาคอุตสาหกรรมไอทีในภาพรวม ด้วยการลงทุนมูลค่าสูงถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ

“รูปแบบการใช้งานใหม่ๆ ของอุปกรณ์ที่มีการประมวลผล อุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ และอุปกรณ์ Wearable ต่างก็กำลังเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้งาน” ไบรอัน เคอซานิทช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินเทล กล่าว “เทคโนโลยีของอินเทลมีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ไขปัญหาที่เราต้องเผชิญอยู่ทุกวันนี้ และสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งบุคคลทั่วไปและภาคธุรกิจ การจะบรรลุจุดมุ่งหมายนี้ได้นั้น เราจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านความหลากหลายและการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นอกจากนั้นผู้หญิงและคนส่วนน้อยที่อาจไม่ได้รับความเท่าเทียมหลากหลายเชื้อชาติจากทั่วโลก ล้วนแล้วแต่มีบทบาทที่สำคัญในฐานะผู้บริโภค ผู้นำเทรนด์ นักสร้างสรรค์นวัตกรรม และผู้นำระดับแถวหน้า”

นายเคอซานิทช์ ได้เปิดตัวเทคโนโลยีและโครงการใหม่ทั้งหมดนี้ในงานแถลงข่าวของอินเทลที่งาน อินเตอร์เนชันแนล คอนซูมเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ 2015 (CES 2015) นอกจากนี้ เขายังร่วมเปิดตัวอุปกรณ์ Wearable ที่อินเทลออกแบบร่วมกับ Oakley* ผู้นำด้านงานออกแบบและแบรนด์แว่นตาสปอร์ตระดับโลก พร้อมด้วยนวัตกรรมระบบสามมิติที่พัฒนาร่วมกับเอชพี* และ ทรู คีย์ (True Key) แอพพลิเคชั่นล่าสุดจาก อินเทล ซิเคียวริตี้ (Intel Security) ที่เสริมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและลดความซับซ้อนในการเข้าใช้งานให้กับอุปกรณ์ทุกแพลตฟอร์ม โดยใช้การสแกนหน้า ลายนิ้วมือ หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ของผู้ใช้เอง

ปฏิวัติวงการอุปกรณ์ Wearable

การเติบโตของตลาด wearableได้เปิดโอกาสให้มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำยุคขึ้นมากมาย ในงานนี้ นายเคอซานิทช์ได้เผยถึงแผนงานการพัฒนา Intel Curie1 ผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ขนาดจิ๋วอันเป็นการต่อยอดจากหน่วยประมวลผลรุ่นเริ่มแรกแบบเอสโอซี (SoC) ที่อินเทลสร้างขึ้นเพื่อใช้งานในอุปกรณ์ Wearable โดยเฉพาะ ทั้งนี้ อินเทล เคียวรี่ จะวางตลาดอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 นี้ โดยมาพร้อมกับชิป อินเทล® คว๊าค™ เอสอี (Intel® Quark™ SE) ระบบบลูทูธแบบใช้พลังงานต่ำ เซ็นเซอร์ และแบตเตอรี่ในตัว

โดยหลังจากที่นายเคอซานิทช์ได้เผยถึงโครงการต่างๆ ของบริษัทในเวทีแห่งนี้เมื่อปี 2557 อินเทลมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีด้านอุปกรณ์เพื่อการสวมใส่มาโดยตลอด และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์รวมทั้งโครงการความร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่น ฟิตเนส และ ไลฟ์สไตล์ชั้นนำมาแล้วมากมาย จนเกิดเป็นผลงานที่โดดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส แบนด์สุดล้ำอย่าง เบซิส พีค* (Basis Peak) ความร่วมมือกับฟอสซิล กรุ๊ป* (Fossil Group) และลักซอติก้า กรุ๊ป* (Luxottica Group) แอคเซสซอรีไฮเทค ไมก้า ที่พัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับ โอเพนนิง เซเรโมนี(MICA and Opening Ceremony) เอสเอ็มเอส ออดิโอ (SMS Audio) และการแข่งขัน “Make It Wearable” (Make it Wearable Challenge) และยังคงมุ่งมั่นสานต่อความสำเร็จนี้ วันนี้อินเทลได้ประกาศความร่วมมือกับโอ๊คเล่ย์เพื่อร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์เพื่อการสวมใส่ โดย Oakleyเป็นแบรนด์แรกภายใต้ Loxottica Group ที่จะทำงานร่วมกับ     อินเทลในการผสมผสานแว่นตาระดับพรีเมี่ยมหลากหลายสไตล์ให้เข้ากับเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยนายเคอซานิทช์ และ คอลิน บาเดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Oakley ได้ร่วมกันประกาศว่าในปีนี้ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์อัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพของนักกีฬาโดยเฉพาะ

ภายในงาน นายเคอซานิทช์ยังได้นำเสนอ นิกซี่* (Nixie) อุปกรณ์กล้องแบบสวมใส่ได้รุ่นแรกของโลกที่สามารถบินขึ้นถ่ายภาพกลางอากาศได้ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะการแข่งขัน “Make It Wearable” ของอินเทลในปี 2557 ที่ผ่านมา Nixie เป็นกล้องถ่ายรูปที่สวมไว้ที่ข้อมือ โดยจะกางออกและบินขึ้นเมื่อต้องการใช้งาน เพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพตัวเองได้จากระยะไกล ในโอกาสนี้ คริสตอฟ โคห์สตอลล์ และเยเลนา โยวาโนวิช สองนักพัฒนาผู้อยู่เบื้องหลังกล้อง Nixie ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนายเคอซานิทช์บนเวที พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงโอกาสที่สามารถมอบให้กับนักคิดและนักธุรกิจหน้าใหม่จากการแข่งขัน “Make It Wearable” ก่อนที่จะร่วมกันถ่ายรูปด้วยกล้อง Nixie เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ นายเคอซานิทช์ยังกล่าวย้ำว่าอินเทลจะให้การสนับสนุนการแข่งขัน “Make It Wearable” อีกครั้งในปีนี้

นายเคอซานิทช์ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ Diversity in Technology เพื่อเป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในระยะหลังด้านสิทธิสตรีและความเท่าเทียมกันระหว่างชนชาติ

ภายใต้โครงการนี้ อินเทลได้กำหนดเป้าหมายใหม่ด้านการจ้างงาน โดยมีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือการปรับอัตรา ส่วนการว่าจ้างพนักงานหญิงและคนส่วนน้อยให้อยู่ในระดับที่สะท้อนถึงอัตราส่วนของบุคคลทั้งสองกลุ่มในตลาด แรงงานสหรัฐฯ โดยเป้าหมายนี้จะครอบคลุมถึงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงด้วย โดยหวังว่าจะบรรลุเป้าหมายนี้ในปี 2563

นอกจากนี้ อินเทลยังมีแผนที่จะลงทุนเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนการสร้างบุคลากรหญิงและคนส่วนน้อยในสายอาชีพวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ รองรับการจ้างงานบุคคลในสองกลุ่มดังกล่าว และให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมด้านโอกาสการทำงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและเกมส์

“เราขอเรียกร้องให้วงการไอทีร่วมแรงร่วมใจกันทำในสิ่งที่บางคนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ โดยหันมามุ่งมั่นผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงภายใต้เป้าหมายที่ชัดเจน” นายเคอซานิทช์กล่าว “การที่ตลาดแรงงานของเราไม่สามารถสะท้อนถึงความเป็นจริงในด้านอัตราส่วนของแต่ละกลุ่มประชากร อาจทำให้เราต้องพลาดโอกาสต่างๆ มากมาย เช่นการทำความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าที่นำไปสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตรงกับความต้องการของทุกคน”

ทั้งนี้ อินเทลจะทำงานร่วมกับองค์กรมากมายในวงการไอที ไม่ว่าจะเป็นสมาคมนักพัฒนาเกมนานาชาติ* (International Game Developers Association) อี-สปอร์ตส์ ลีก* (E-Sports League) ศูนย์สนับสนุนสิทธิสตรีในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี* (National Center for Women in Technology) มูลนิธิไซเบอร์สไมล์* (CyberSmile Foundation) กลุ่มเฟมินิสต์ ฟรีเควนซี* (Feminist Frequency) และเรนโบว์ พุช (Rainbow PUSH) เพื่อสนับสนุน เสริมศักยภาพ และริเริ่มโครงการต่างๆ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน

เผยโฉมคอมพิวเตอร์แห่งอนาคต

การใช้งานคอมพิวเตอร์ในอดีตและปัจจุบันมักจะจำกัดอยู่เพียงแค่การใช้งานผ่านทางหน้าจอ คีย์บอร์ด และเม้าส์ ในโอกาสนี้ นายเคอซานิทช์ได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่มากมายที่สามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานในรูปแบบ 3D และทะลายความวุ่นวายอย่างเรื่องสายเคเบิลหรือรหัสผ่านเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด

เทคโนโลยีที่นายเคอซานิทช์นำเสนอจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีกำหนดวางตลาดภายในช่วงปลายปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น True Key™ แอพพลิเคชั่นล่าสุดจาก Intel Security ที่จะเข้ามาแทนที่การใช้รหัสผ่านด้วยองค์ประกอบส่วนบุคคลเช่นการสแกนหน้าของผู้ใช้ ลายนิ้วมือ หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ จึงทำให้การเข้าใช้งานอุปกรณ์อย่างปลอดภัยเป็นเรื่องง่าย True Key สามารถรองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการไอโอเอส* แอนดรอยด์* วินโดวส์* แมค* และเว็บบราวเซอร์ทั่วไป โดยอุปกรณ์รุ่นใหม่จากเอชพีและเลอโนโวจะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์นี้ ขณะที่ชุดโปรแกรมแมคอาฟี่ ไลฟ์เซฟ (McAfee LiveSafe) ก็จะเพิ่มคุณสมบัตินี้เข้าไปในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ผู้สนใจสามารถทดลองใช้ True Key ได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ www.truekey.com

นอกจากนี้ นายเคอซานิทช์ยังเผยถึงความร่วมมือกับธุรกิจในหลายภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นฮิลตัน* จากัวร์ แลนด์ โรเวอร์* สนามบินนานาชาตินครซานฟรานซิสโก* และแมริออท* สำหรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย โดยพันธมิตรของอินเทลแต่ละรายจะเดินหน้าทดลอง พัฒนา และนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้งานจริงต่อไปในอนาคต ดังเช่นแผนงานของกลุ่มแมริออทที่จะนำระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายไปติดตั้งในโรงแรมต่างๆ ในเครือ ทั้ง เจ ดับบลิว แมริออท* แมริออท เรเนอซองส์* คอร์ทยาร์ด* และเรสซิเดนซ์ อินน์*

ซีอีโอของอินเทลกล่าวอีกว่าเทคโนโลยีกล้องสามมิติ Intel RealSense และแอพพลิเคชั่นที่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าว ได้เริ่มมีการติดตั้งและใช้งานอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้นในกลุ่มอุปกรณ์ทูอินวัน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปแบบออลอินวัน (AIO) ซึ่งรวมถึงดีไวซ์รุ่นใหม่ที่ใช้ชิปประมวลผล อินเทล® คอร์™ เจนเนอเรชั่นที่ 5 (5th generation Intel® Core™ processors) ซึ่งจะวางจำหน่ายในไตรมาสนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมด้านนวัตกรรมที่ต่อยอดมาจากเทคโนโลยีและระบบกล้อง Intel RealSense สามารถอ่านต่อได้ที่นี่

ดิออน ไวส์เลอร์ รองประธานบริหารกลุ่มธุรกิจเครื่องพิมพ์และระบบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของเอชพี ได้ร่วมสนทนากับนายเคอซานิทช์ถึงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในยุคสามมิติ โดยนายไวส์เลอร์เผยว่าเอชพีกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถผสมผสานโลกดิจิทัลเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงได้ ขณะที่เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติ มัลติ เจ็ท ฟิวชั่น (Multi Jet Fusion) ของเอชพี ก็จะขับเคลี่อนด้วยพลังของชิปประมวลผล อินเทล® คอร์™ i7 (Intel® Core™ i7) เพื่อเสริมประสิทธิภาพทั้งในด้านความเร็ว คุณภาพ และประหยัดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ นายไวส์เลอร์ยังกล่าวอีกว่าประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของเทคโนโลยีจากอินเทลจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมการพิมพ์แบบสามมิติ

สู่โลกอัจฉริยะในทุกแห่งหน

            นายเคอซานิทช์ได้เน้นย้ำถึงประโยชน์จากการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะที่เชื่อมถึงกัน เพื่อเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวันในหลากหลายแง่มุม เช่นเทคโนโลยีหุ่นยนต์และโดรนที่นำไปใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ เทคโนโลยี Intel RealSense สามารถช่วยให้อุปกรณ์เหล่านี้มองเห็นและหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆ ผ่านทางระบบกล้องสามมิติ จึงสามารถทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยพันธมิตรอย่าง แอสเซนดิง เทคโนโลยี* (Ascending Technologies) และไอโรบอท* (iRobot) ต่างก็มีแผนที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้กับหุ่นยนต์และโดรนของตน

เลโนโวรุ่น Yoga 3 อุปกรณ์ทูอินวัน ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของ อินเทล® คอร์™ โปรเซสเซอร์

เลโนโว B50 คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปแบบออลอินวัน รุ่นแรกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel® RealSense™ และขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของโปรเซสเซอร์จาก อินเทล

ไบรอัน เคอซานิทช์ กับ Intel® Curie™ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต้นแบบ

ไบรอัน เคอซานิทช์ กับ Intel® Curie™ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต้นแบบ

เอซุส เซนโฟน 2 ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของ อินเทล® อะตอม™ โปรเซสเซอร์ รองรับรับระบบ LTE Advanced modem และ Intel® XMM™ 7260

อินเทล® คอร์™ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 5 กับ อินเทล เอชดี กราฟฟิก การ์ด

เกี่ยวกับอินเทล

อินเทล เป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมการประมวลผล รวมทั้งการออกแบบ และสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานการพัฒนาอุปกรณ์ประมวลผลระดับโลก ในฐานะของบริษัทที่เป็นผู้นำในบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน อินเทลจึงใช้แร่ธาตุจากแหล่งที่มาที่ปราศจากความขัดแย้ง (Conflict-free) เพื่อผลิตอุปกรณ์ประมวลผลที่มีวางจำหน่ายเป็นรายแรกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทล สามารถเข้าชมได้ที่newsroom.intel.com, blogs.intel.com, ทวิตเตอร์ @Intelthailand, เฟสบุ๊ค IntelThailand และ conflictfree.intel.com

ที่มา https://www.itnews24hrs.com