วิธีการทำ Content is King ให้ถูกต้องตามหลัก SEO

“Content is king” เป็นอะไรที่เรา ๆ (ผู้คนที่ศึกษา seo มาช่วงระยะเวลานึง) ได้ยินกันบ่อยมาก ๆ จริงไหมครับ หลังจากที่ผมไปอ่านบท Paper ของหลายๆท่าน ข้อสรุปก่อนเข้าเรื่องเลยว่า Content is King ไม่ได้หมายถึง Unique Content หรือการนั่งเขียน บทความสดๆใหม่เพียงอย่างเดียวหรอกนะครับ

ก่อนอื่นขออธิบายคำว่า  Unique Content นั้นถ้าเราแปลตรงตัว Unique แปลว่า เอกลักษณ์ ส่วน Content นั้น แปลว่า เนื้อหา สำหรับ Unique Content จึงแปลว่า เนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์ หรือ เนื้อหาที่ไม่ซ้ำใคร โดยคุณอาจจะนำมาจากประสบการณ์ตรงมาเขียน หรือ ค้นคว้ามาจากหลายๆ เว็บ หรือ หนังสือหลายๆ เล่ม แล้วนำมาเขียนใหม่ หรือ ทำการปรับแต่ง ( Rewrite ) ด้วยตัวของท่านเอง พูดง่ายๆคือไม่ได้คัดลอกของใครมา ซึ่งแม้เราจะเขียนบทความในเรื่องเดียวกันแต่ถ้าเราเขียนขึ้นโดยการนึกคิดของ ตัวเอง ย่อมไม่มีทางที่เนื้อหาเหล่านั้นจะซ้ำกันได้ Search Engine จึงค่อนข้างจะใส่ใจเรื่องนี้ เพราะว่าต้องการนำเสนอเนื้อหาใหม่ๆให้แก่ผู้ค้นหาอยู่เสมอ

วิธี การทำ Content is king ให้ถูกต้องตามหลัก SEO นั้นก็ไม่ได้มีหลักการที่ตายตัวมากนัก แต่เราใช้วิธีที่เลียนแบบการเขียนบทความโดยทั่วไปเพื่อให้ Search Engine เข้าใจได้ว่าเราเขียนบทความที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องกับเรื่องใด ซึ่งจะทำให้ได้รับอันดับที่ดีในผลการค้นหาของคีย์เวิร์ดนั้นๆ โดยเราจะทำการวางตำแหน่งขององค์ประกอบในการเขียนบทความเพื่อให้บอทได้มาเก็บข้อมูลโดยสะดวกนั่นเอง

ซึ่งการที่เราจะเขียนบทความมาซักบทความนึงเราจะต้องมีเนื้อหาของสิ่งที่จะเขียนอยู่ในใจอยู่แล้วโดยปกติ ว่าเราจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไรหรือคีย์เวิร์ดไหน ทีนี้เราก็มาจัดวางตำแหน่งของเนื้อหากัน โดยการแบ่งเนื้อหาออกเป็นพารากราฟ หรือเป็นหัวข้อๆ และทำการสอดแทรกคีย์เวิร์ดหลักและคีย์เวิร์ดที่ใกล้เคียงกันเข้าไปยังภายในเนื้อหา โดยในส่วนสำคัญที่สุดคือส่วนของ พารากราฟแรกและพารากราฟสุดท้ายของบทความ จะต้องมีคีย์เวิร์ดอยู่ภายในอย่างน้อย 1 คำแต่ไม่ควรเยอะเกิน 3 คำ เพื่อแลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

การใส่รูป และวิดีโอประกอบ การใช้ Tag HTML เพื่อเพิ่มความสำคัญของคีย์เวิร์ด ซึ่งได้แก่การใส่ตัวหนา <b>,<strong> และการใส่ตัวเอียง<i>,<em> จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของ SEO ให้ดียิ่งขึ้น

องค์ประกอบที่เราได้กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งในบรรดาหลายๆ ปัจจัย(Factors) นับพันหรือหมื่นกว่าชนิดที่ Search Engine ใช้ในการประเมินการจัดอันดับในผลการค้นหา แต่เชื่อว่าหากเราพยายามทำตามที่เขียนมาทั้งหมดนี้ เชื่อว่าจะสามารถทำอันดับได้ดีไม่มากก็น้อย

ขอขอบคุณเนื้อหา :