เฟซบุ๊กทำให้มีเรื่องให้เราได้ติดตามและลองใช้

เมื่อเฟซบุ๊กเข้าใจข้อความของเราได้เอง (1)
ถ้าให้บอกชื่อบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่คุณผู้อ่านคิดว่าแอคทีฟ (Active) และร้อนแรงที่สุดในปัจจุบัน เชื่อว่าเฟซบุ๊ก (Facebook) คงเป็นหนึ่งในชื่อที่หลายคนนึกได้เป็นชื่อแรก ๆ 

ถ้าให้บอกชื่อบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่คุณผู้อ่านคิดว่าแอคทีฟ (Active) และร้อนแรงที่สุดในปัจจุบัน เชื่อว่าเฟซบุ๊ก (Facebook) คงเป็นหนึ่งในชื่อที่หลายคนนึกได้เป็นชื่อแรก ๆ เพราะนอกจากความยิ่งใหญ่ของตัวแอพพลิเค ชั่นและข้อมูลมหาศาลจากผู้ใช้ที่กระจายอยู่ทั่วโลกแล้ว

ทั้งบริษัทและเจ้าของอย่าง มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) เองก็ดูแรงดีไม่มีตกขยันใส่ฟีเจอร์ความสามารถใหม่ ๆ ให้กับเฟซบุ๊กทำให้มีเรื่องให้เราได้ติดตาม ลองใช้ หรือมีประเด็นให้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่เนือง ๆ

แต่คุณผู้อ่านเคยนึกระแวงบ้างไหมครับว่าเฟซบุ๊กเพื่อนที่แสนดีของใครหลาย ๆ คนนั้น มีความฉลาดที่กำลังถูกพัฒนาให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจถึงระดับที่คุณผู้อ่านคาดไม่ถึงได้ในเร็ววันนี้ เพื่อให้คุณผู้อ่านประจำคอลัมน์วันพุธของผมได้รู้เท่าทันเพื่อนที่แสนดีคนนี้เอาไว้ วันนี้ผมเลยจะชวนมารู้จักกับแง่มุมปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) หรือความฉลาดของเฟซบุ๊กกันบ้างครับ

เวลาใช้เฟซบุ๊กคุณผู้อ่านเคยนึกสงสัยบ้างไหมครับว่า ทำไมเฟซบุ๊กถึงเลือกโพสต์ได้ตรงใจเรา? ทำไมเฟซบุ๊กถึงรู้ว่า คน ๆ นี้รู้จักกับเราและเลือกที่จะแนะนำให้เราเพิ่มเขาเป็นเพื่อน (Friend)? ทำไมเฟซบุ๊กถึงรู้ว่าหน้าเป็นสิบหน้าในรูปภาพคือหน้าของใครกันบ้าง? เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของความฉลาดในเฟซบุ๊กที่พวกเราใช้กันจนชินและเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่ถ้าพูดถึงความฉลาดล่าสุดของเฟซบุ๊กบ้างก็มีตัว Bot for Messenger หรือปัญญาประดิษฐ์ในแอพ Messenger ของเฟซบุ๊กที่ทำหน้าที่วิเคราะห์และพิมพ์ข้อความโต้ตอบกับผู้ใช้ได้เองโดยอัตโนมัติแบบเร็ว ๆ เนียน ๆ เสมือนเป็นคนจริงมาพิมพ์โต้ตอบคุยกันเลย โดยคุณผู้อ่านสามารถไปลองเล่นกับปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ได้แล้วกับแอคเคาท์นำร่องอย่าง CNN เป็นต้น

นอกจากเฟซบุ๊กแล้วปัญญาประดิษฐ์สำหรับแพลตฟอร์มการคุยแชตตอบโต้ทางตัวอักษรก็ถูกเสนอโดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ค่ายอื่นเช่นกัน เช่น บริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) และ บริษัทกูเกิล (Google) แต่ล่าสุดนี้เฟซบุ๊กได้เสนอแผนใหม่ที่ต่อยอดความสามารถนี้ไปอีกระดับครับ โดยจะไม่ใช่แค่วิเคราะห์ข้อความในแชต ๆ หนึ่งภายใน Messenger แต่จะเป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กทั้งหมดในภาพรวม ทั้งข้อความที่เราพิมพ์บ่นในโพสต์ข้อความแชตที่คุยกับเพื่อนใน Messenger และข้อความอื่น ๆ ที่ถูกเก็บไว้ในเฟซบุ๊ก โดยเฟซบุ๊กตั้งชื่อปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่ที่วางแผนจะสร้างนี้ว่า DeepText AI

คำว่า DeepText มาจากการสมาส คำว่า Text ที่แปลว่า ‘ข้อความ’ กับคำว่า Deep ที่มาจาก Deep Learning (การเรียนรู้เชิงลึก) หรือชื่อเต็มว่า Deep Machine Learning สำหรับคุณผู้อ่านที่เพิ่งเคยได้ยินคำว่า Machine Learning (การเรียนรู้ของเครื่อง) ผมขออธิบายย่อ ๆ อย่างนี้ครับว่า Machine Learning เป็นปัญญาประดิษฐ์รูปแบบหนึ่งที่สอนคอมพิวเตอร์ให้ฉลาดโดยการเรียนรู้จากประสบการณ์ เช่น ถ้าผมอยากสร้างโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ที่แยกแยะว่ารูปภาพหนึ่ง ๆ เป็นภาพของน้องหมาหรือน้องแมว วิธีของ Machine Learning คือการหาภาพหมาและภาพแมว รวมถึงภาพอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทั้งหมาและแมวมาอย่างละเยอะ ๆ แล้วเอาภาพเหล่านี้ป้อนเข้าในคอมพิวเตอร์พร้อมสอนไปด้วยว่าภาพแบบนี้คือหมานะ ภาพแบบนี้คือแมวนะ ภาพแบบนี้คือไม่ใช่ทั้งหมาและแมวนะ

ซึ่งถ้าหาข้อมูลมาสอนให้คอมพิวเตอร์ได้มากพอและข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ดี เมื่อเรียนรู้จากประสบการณ์ตัวอย่างที่ดีเหล่านี้ไประดับหนึ่ง คอมพิวเตอร์ที่ใช้ Machine Learning ก็จะเริ่มตัดสินใจได้เองแล้วครับว่าภาพใหม่ ๆ ที่มันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนั้นเป็นรูปหมา รูปแมว หรือ รูปอื่น ๆ กันแน่

เห็นไหมครับว่าเรื่องนี้น่าสนใจแค่ไหน ไว้วันพุธหน้าผมมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมครับว่าตัว DeepText AI นั้นมีคุณลักษณะอะไรเพิ่มเติมมามากน้อยขนาดไหน

ที่มา: