เหตุผลที่ "VooV Meeting" กลายเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานที่บ้านของ ทั้งบุคคลและองค์กรมากที่สุด

เหตุผลที่ "VooV Meeting" กลายเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานที่บ้านของ ทั้งบุคคลและองค์กรมากที่สุด

ในช่วงเวลาที่ทุกคนและทุกองค์กรต่างต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนต่างต้องทำงานจากที่บ้านหรือ Work From Home จึงทำให้การสื่อสาร และการทำงานระหว่างคนในทีม หรือระหว่างทีมเป็นเรื่องท้าทายมาก

แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือการประชุมแบบทางไกลผ่านวีดีโอหรือ Video Conference ที่ได้เห็นทั้งหน้าและได้ยินทั้งเสียง ซึ่งกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การสื่อสาร และการประชุมต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการประชุมผ่านวีดีโอทำให้เราได้เห็นหน้าและได้ยินเสียงเหมือนกับคุยแบบตัวต่อตัว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการสื่อสารในเรื่องที่ซับซ้อน หรืออ่อนไหว

มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวถึงการเข้ามามีบทบาทสำคัญของโซลูชัน Video Conference ผ่านระบบคลาวด์ว่า “การทำงานของระบบการประชุมแบบทางไกลผ่านวีดีโอนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี 2 ปัจจัยที่สำคัญ นั่นคือ ระบบคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพขั้นสูง และต้องเป็นระบบที่มีความปลอดภัยอย่างมาก เพื่อให้ทุกองค์กรมั่นใจว่าจะดำเนินการประชุมได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัดตลอดระยะเวลาการประชุมที่บางครั้งอาจกินเวลาหลายชั่วโมง และข้อมูลในระหว่างการประชุมนั้นไม่รั่วไหล ดังนั้น คลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูงจึงกลายเป็นกระดูกสันหลังที่สำคัญของโซลูชัน Video Conference อันเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้แต่ละองค์กรยังเดินหน้าต่อไปได้”

ต้องรองรับการประชุมองค์กรใหญ่และคุยได้อย่างต่อเนื่อง

อีกความท้าทายขององค์กรใหญ่คือการสื่อสารกับพนักงานจำนวนมากได้ใน 1 ครั้ง และต้องไม่สะดุดหรือโดนตัด นั่นทำให้ เทนเซ็นต์ บริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำได้เปิดให้ใช้ VooV Meeting (วูฟ มีทติ้ง) โซลูชั่น Video Conference ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ (หรือเดิมชื่อ Tencent Cloud Meeting เทนเซ็นต์ คลาวด์ มีทติ้ง)

เหตุผลที่ทำให้ VooV Meeting เป็นโซลูชัน Video Conference ที่ตอบโจทย์การทำงานที่บ้านของทั้งบุคคลและองค์กรมากที่สุด

1.VooV Meeting สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมในทั้งรูปแบบเสียง และรูปแบบวีดีโอได้มากที่สุดถึง 300 คน และสามารถประชุมได้อย่างต่อเนื่องไม่มีการจำกัดเวลา ซึ่งในระหว่างการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นี้ ทุกคนและทุกองค์กรสามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด
2.รองรับด้วย Tencent Cloud อันมีประสิทธิภาพสูงของเทนเซ็นต์เอง ที่มีเครือข่ายครอบคลุมอยู่ทั่วโลก ทำให้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถใช้งานได้ และมีประสบการณ์การใช้งานที่ดี
3.เพียงแค่ใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันที่มีทั้งทาง macOS และวินโดวส์ (Windows) ระบบปฏิบัติการมือถือทั้ง iOS และ แอนดรอยด์ (Android) หรือสแกนผ่าน WeChat และใช้งานผ่านมินิโปรแกรมก็สามารถใช้งานได้ทันที
4.ถูกใจแน่นอนสำหรับสาวออฟฟิศด้วยเทคโนโลยี AI บนฟังค์ชั่น “บิวตี้” ที่ช่วยปรับแต่งความสวยได้ดั่งใจคุณ ไม่ต้องกลัวการเปิดกล้องตอนวีดีโอคอลอีกต่อไป
5.เลือกฉากหลังได้ดั่งใจ ไม่ว่าอยากไปที่ไหนก็สามารถอัพโหลดรูปนั้นขึ้นเป็นฉากหลังระหว่างการประชุมได้เลย บ้านใครไม่เป็นระเบียบ ก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป
6.ระบบภาพและเสียงคุณภาพ HD ทำให้คุณไม่ต้องกังวลใจว่าจะอีกฝั่งจะเห็นภาพชัดหรือไม่ นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบเสียงแบบ AI-Based ทำให้คุณส่งเสียงที่คมชัด ลดเสียงรบกวนทั้งการพิมพ์คีย์บอร์ด คลิกเมาส์ ไม่เกิดการรบกวนระหว่างเข้าประชุมทางออนไลน์ได้อย่างดี
7.สำหรับผู้ที่ใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ก็สามารถส่งไฟล์งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พรีเซ็นเทชัน หรือไฟล์เอกสารต่างๆ ให้กับผู้ร่วมประชุมได้เลย และยังสามารถแชร์ภาพหน้าจอพร้อมเพิ่มลายน้ำจากคอมพิวเตอร์ตัวเองให้ผู้ร่วมประชุมได้ ทำให้การประชุมราบรื่นมากยิ่งขึ้น
8.ที่สำคัญที่สุด VooV Meeting ให้ความสำคัญเรื่องการปกป้องความปลอดภัยของผู้ใช้งาน และข้อมูลต่างๆ โดยใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสและซอฟต์แวร์ไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล

และด้วยเทนเซ็นต์ คลาวด์ (Tencent Cloud) ที่เป็นกระดูกสันหลังอันทรงประสิทธิภาพของ VooV Meeting จากเทนเซ็นต์ทำให้ทุกองค์กรมั่นใจได้ถึงระบบที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ด้วยการประเมินและรับรองจากนานาชาติบนมาตรฐานทั้ง ISO27001, ISO 27017, ISO 27018, CSA STAR ที่เป็นการรับประกันได้ว่าทางเทนเซ็นต์จะไม่มีการเข้าถึงดาต้าและข้อมูลของลูกค้าในระหว่างการประชุมหากไม่ได้รับการยินยอมแต่อย่างใด

ธุรกิจและองค์กรต่างๆ สามารถดาวน์โหลด VooV Meeting เพื่อใช้งานได้อย่างปลอดภัยแล้ววันนี้ทั้งทาง macOS และวินโดวส์ (Windows) ระบบปฏิบัติการมือถือทั้ง iOS และ แอนดรอยด์ (Android) 

ที่มา: