ข้อแตกต่างระหว่าง Google Play และ App Store

ข้อแตกต่างระหว่าง Google Play และ App Store

หมวดหมู่: บทความทั่วไปMobile AppsAndroidiOSSoftware ReviewHardware Reviewข่าวไอที

10 เหตุผล Google Play ดีกว่า App Store ตรงไหน มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร

          ถึงแม้ว่า Google Play และ App Store จะเป็นเพียงช่องทางที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกดาวนืโหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่ต้องการก็ตาม แต่มันก็มีข้อดีและข้อเสียที่ทำให้ทั้งสอง Store นั้นสร้างความพึงพอใจและไม่พึงพอใจทั้งกับผู้ใช้และผู้พัฒนาอยู่พอสมควร และในวันนี้เราจะมาพูดถึงสิ่งที่ Google Play ดีกว่า App Store กัน ซึ่งเป็นความเห็นของผู้พัฒนาแอพฯ HoursTracker ที่ได้แสดงความคิดเห็นบนเว็บไซต์ BusinessInsider เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา

          1. Google Play แสดงยอดดาวน์โหลดของทุก ๆ แอพฯ ทำให้รู้ได้ว่าแต่ละแอพฯ ได้รับความนิยมมากแค่ไหน  ในขณะที่ App Store นั้นแสดงเพียงแค่คะแนนเฉลี่ยเท่านั้น

          2. Google Play ไม่รีเซ็ตคะแนนแอพฯ ทุกครั้งเมื่อมีการอัพเดท แต่สำหรับ App Store นั้นจะลบล้างคะแนนเก่าทั้งหมดเมื่อมีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งอย่างน้อยก็ควรมีตัวเลือกให้สามารถดูคะแนนของเวอร์ชั่นเก่า ๆ ได้

          3. Google Play มีพื้นที่ใส่คำอธิบายแอพฯ สั้น ๆ ได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการเสียเวลาอ่านคำอธิบายทั้งหมด แต่ App Store จะใช้วิธีแสดงข้อความแค่ไม่กี่บรรทัดแรก ๆ  แล้วให้เลือก read more เพื่ออ่านที่เหลือแทน ซึ่งผู้ใช้หลายคนอาจจะไม่ได้อ่าน


  
         4. Google Play สามารถติดตั้งแอพฯ จากหน้าเว็บได้ เพียงแค่คลิกปุ่มติดตั้ง (Install) แอพฯ ก็จะถูกดาวน์โหลดไปติดตั้งในอุปกรณ์ให้อัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย

          5. Google Play แสดงรูป Screenshot ได้สูงสุดถึง 8 รูป แต่ App Store แสดงได้เพียง 5 รูปเท่านั้น ซึ่งสำหรับแอพฯ ที่มีรายละเอียดและฟีเจอร์เยอะ ๆ การแสดง Screenshot หลายภาพก็จะยิ่งช่วยในการตัดสินใจติดตั้งของผู้ใช้ได้มากขึ้น

          6. Google Play รองรับวิดีโอตัวอย่างที่มีความยาวได้ไม่จำกัด แต่ App Store รองรับได้สูงสุดแค่ 30 วินาที ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ทำให้บางแอพฯ ไม่สามารถแสดงฟีเจอร์ให้ผู้ใช้ชมได้ทั้งหมด


          7. ผู้พัฒนาสามารถเปลี่ยนรายละเอียดหรือรูป Screenshot ของแอพฯ บน Google Play ได้อิสระ แต่สำหรับ App Store นั้นผู้พัฒนาจะต้องทำการออกอัพเดทแอพฯ เป็นเวอร์ชั่นใหม่เพื่อจะเปลี่ยนเพียงแค่ Screenshot และแน่นอนว่าถ้าไม่ถูกใจอยากเปลี่ยนบางรูปก็ไม่สามารถทำได้นอกจากจะต้องออกอัพเดทแอพฯ เป็นเวอร์ชั่นใหม่อีกรอบ



          8. ผู้พัฒนาสามารถนำข้อความรีวิวจากผู้ใช้แอพฯ บน Google Play มาปักหมุดโชว์ให้เห็นเด่นชัดได้ ช่วยให้แอพฯ ดูน่าสนใจที่จะดาวนโหลดไปใช้งานมากขึ้น

          9. ผู้พัฒนาแอพฯ บน Google Play สามารถคืนเงินให้ผู้ใช้ได้โดยตรงในกรณีที่ผู้ใช้ไม่พึงพอใจในการใช้งานแอพฯ ซึ่งผู้พัฒนามีสิทธิ์พิจารณาการคืนเงินเอง ต่างกับแอพฯ บน App Store ที่ทางแอปเปิลจะเป็นผู้พิจารณาเองว่าสมควรจะคืนเงินให้หรือไม่ โดยที่ผู้พัฒนาไม่มีโอกาสได้พิจารณาเลย



          10. ผู้พัฒนาสามารถออกอัพเดทแอพฯ บน Google Play เมื่อไหร่อย่างไรก็ได้ โดยถ้าหากแอพฯ ที่อัพเดทมีปัญหาก้สามารถแก้ไขและอัพเดทใหม่ได้ทันที แต่สำหรับบน App Store นั้นจะต้องรอถึง 7-10 วันจึงจะออกอัพเดทใหม่ได้ แถมยังมีข้อจำกัดอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่อิสระเหมือนอย่าง Google Play

          11. ผู้พัฒนาสามารถเช็กสถิติต่าง ๆ ของแอพฯ บน Google Play ได้ ซึ่งทางแอปเปิลก็เคยเปิดเผยว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ดังกล่าวบน App Store เช่นกัน แต่ผ่านมานานแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เสียที

          อย่างไรก็ตามถ้าในอนาคต App Store มีการพัฒนาและปรับปรุงให้ถูกใจผู้ใช้และผู้พัฒนาก็อาจจะดีกว่า Google Play สักวันหนึ่งก็เป็นได้

ที่มา 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก businessinsider

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
user
โดย Admin ITGenius
เข้าชม 11,725 ครั้ง

คำค้นหา : ข้อแตกต่าง Google Playข้อแตกต่าง App Store ข้อดีของ Google Play ข้อดีของ App Store ข้อเสียของ Google ข้อเสียของ App store