ค้าปลีกขานรับ Easy E-Receipt ช้อปลดภาษี 50,000 ชี้กระตุ้นกำลังซื้อ

ค้าปลีกขานรับ Easy E-Receipt ช้อปลดภาษี 50,000 ชี้กระตุ้นกำลังซื้อ


ค้าปลีกขานรับ Easy E-Receipt ช้อปลดภาษี 50,000 ชี้กระตุ้นกำลังซื้อ ยอดขายได้จริง

นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้า เพาเวอร์ มอลล์ บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลจะนำมาตรการอีซี่ อีรี-ซีท (easy e-receipt)  กลับมาใช้ในระหว่างวันที่ 15 มกราคมถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 รวมระยะเวลา 45 วัน โดยนำยอดการซื้อสินค้าและบริการนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท เนื่องจากเป็นมาตรการที่สามารถกระตุ้นกำลังซื้อและยอดขายได้เป็นอย่างดี ขณะที่ระยะเวลาก็เหมาะสม สะท้อนจากครั้งก่อนหน้าที่สามารถสร้างยอดขายในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตถึง 30-40% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา

“เพาเวอร์ มอลล์ เราเตรียมสต๊อกสินค้าไว้กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้แล้ว โดยเฉพาะสินค้าขายดี ที่มองว่าในปีหน้าจะยังขายดีอยู่ คือ เครื่องปรับอากาศ เพราะอากาศร้อน ยังมีพัดลม ตู้เย็น มือถือ เป็นต้น และคาดว่าจะทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 20-30%” นายรัชตะกล่าว

นายรัชตะกล่าวว่า นอกจากนี้ยังจะขยายการจัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า” ที่นำสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอื่นๆ เช่น มือถือ แท็ปเล็ต สมาร์ทวอทช์ เป็นต้น มาจัดโปรโมชั่นพิเศษลดสูงสุด 60% แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 24 เดือน เป็นต้น จากเดิมถึง 15 มกราคม 2568 ไปถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เท่ากับระยะเวลาอีซี่ อีรี-ซีท

ก่อนหน้านี้ นายณัฐ วงศ์พานิช ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ภาพรวมค้าปลีกปี 2567 ยังไม่สดใสมากนัก จากปัจจัยที่มีผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและผู้ประกอบการค้าปลีก อาทิ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นตามที่ภาครัฐคาดการณ์ไว้ การหดตัวการลงทุนที่ส่งผลต่ออัตราการจ้างงานและการบริโภค หนี้ครัวเรือนสูง ภาระหนี้สินของเอสเอ็มอี ขณะที่มาตรการแจกเงิน 1 หมื่นบาทให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ยังไม่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ชัดและยังต้องรอความชัดเจนในเฟสต่อไปที่จะแจกให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มอื่นๆ

โดยอยากให้เพิ่มการอัดฉีดมาตรการกระตุ้นการบริโภคและเศรษฐกิจในประเทศ ด้วยการคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ ทั่วถึง และตรงกลุ่มเป้าหมายสร้างโมเมนตัมการใช้จ่ายอย่างได้ผล เช่น ช้อปดีมีคืน, Easy E-Receipt เป็นต้น

ที่มา: https://www.matichon.co.th/economy/news_4965720