จริงหรือไม่ เล่นมือถือนานๆ ทำให้ตาบอดได้
ด้วยในปัจจุบันเป็นยุค IT ที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในชีวิตประจำวันของทุกคนมีการใช้ Computer หรือ Smartphone กัน ไม่มากก็น้อย ทำให้ทุกคนเริ่มตื่นตัวกับปัญหาที่จะตามมาของใช้ Computer เป็นเวลานานๆ และมีกลุ่มโรคใหม่ที่พบได้มากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ โรค Computer Vision Syndrome ที่มักมีอาการตาแดง แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล ตามัวเป็นพักๆ หรือเกิดภาวะสายตาสั้นชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีอาการปวดคอเรื้อรัง เนื่องจากการนั่งในท่าเดิมๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน
อันตรายจากการใช้ Computer หรือ Smartphone สามารถทำให้ตาบอดได้หรือไม่?
คำตอบคือ “ไม่ได้” เท่าที่ทราบสิ่งที่ทำให้ทุกคนกังวลใจว่าจะตาบอดจากการใช้ Computer และ Smartphone คงเกิดจากประเด็นเรื่องรังสี UV และแสงสีฟ้า (Blue Light) ดังนั้น เรามาทำความรู้จักรังสี UV กัน
รังสี UV
เกิดขึ้นจากดวงอาทิตย์ ซึ่งมี UVA UVB และ UVC โดย UVC จะถูกโอโซนของโลกเป็นตัวป้องกันไว้ ส่วน UVA และ UVB นั้นจะทะลุเข้ามาภายในโลกของเราได้ แต่โอกาสที่จะเข้าไปทำลายจอประสาทตาได้นั้นมีน้อยมาก
เนื่องจากรังสี UVA และ UVB จะถูกดูดกลืนแสงไว้ 99% และตกไปยังจอประสาทตาเพียง 1% เท่านั้น ซึ่งไม่มีรังสีเหล่านี้ออกมาจาก Computer หรือ Smartphone
ส่วน แสงสีฟ้า หรือ Blue Light นั้น คือ
แสงที่มีความยาวคลื่นสั้นอยู่ที่ 380-500 นาโนเมตร ทำให้มีการกระจายตัวของแสงสีได้มาก จึงทำให้มีอาการปวดตา สายตาล้าได้ง่าย แต่แสงสีฟ้าไม่ได้มีแต่โทษเท่านั้น ประโยชน์ของแสงสีนี้คือ การกระตุ้นให้ร่างกายมีการตื่นตัว การ Block การใช้แสงสีนี้อาจมีผลต่อระบบการนอนและการตื่นของร่างกายได้ ซึ่งแสงสีฟ้าสามารถพบได้ทั่วไปจากแสงอาทิตย์ จากหลอดไฟ จาก Computer และ Smartphone
แต่แสงสีฟ้าไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ตาบอดแต่อย่างใด เพียงแต่ทำให้ผู้ใช้ไม่สบายตา เมื่อใช้ Computer หรือ Smartphone เป็นนานๆ
ที่เคยมีคนกล่าวไว้ว่า การใช้มือถือในที่มืดจะทำให้เกิดจอประสาทตาเสื่อม หรือ จอประสาทตาหลุดนั้น
ไม่เป็นความจริงอย่างมาก เนื่องด้วยจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ ยังไม่พบความสัมพันธ์ของแสงสีฟ้า Blue Light กับการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมอย่างชัดเจน เพราะโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่แสงสีฟ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สรุปคือ การใช้งาน Computer หรือ Smartphone ในที่มือ ไม่ได้ทำให้ตาบอด
แต่จะทำให้เกิดความไม่สบายตามากกว่าการเล่นขณะเปิดไฟ เพราะจะต้องเพ่งมากกว่าปกติ และมีแสงสะท้อนเข้าตามากกว่าปกติ ทำให้เกิดความไม่สบายตา ทำให้ตาล้ามากขึ้น อาการจากใช้อุปกรณ์เหล่านี้จะเป็นอาการเพียงชั่นคราวเท่านั้น เมื่อพักและหยุดใช้งานไป ก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้
ที่มา: sanook.com/hitech/1590991
ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting
ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ
Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFeFacebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
แนะนำหลักสูตรอบรมที่น่าสนใจ
คำค้นหา : computersmartphoneเล่นมือถือตอนปิดไฟตาล้าตาล้าพร่าตาบอดแสงสีฟ้าการตื่นตัวนอนไม่หลับรังสี uv