ซื้อไอโฟนรุ่นไหนคุ้มที่สุด ในช่วงปลายปี 2018

ซื้อไอโฟนรุ่นไหนคุ้มที่สุด ในช่วงปลายปี 2018
ท่ามกลางของกระแสที่ iPhone รุ่นใหม่ทั้ง iPhone XR, iPhone XS, iPhone XS Max ที่แม้ว่าจะเป็นของดีที่หลายคนอยากได้แต่ก็ยอดขายไม่ถึงเป้า แต่สำหรับคนที่คิดไม่ออกว่า จะซื้อ iPhone รุ่นไหนในปีนี้ดี

วันนี้ทีม Sanook! Hitech จะมารวบรวมจุดเด่นและจุดด้อยของ iPhone ที่มีจำหน่ายในปัจจุบันมาให้เลือกและตัดสินกัน

iPhone 6

เริ่มต้นกับ iPhone 6 มีจุดเด่นคือขนาดกำลังดีกับมือ ความจุเหมาะสมราคาเมื่อซื้อกับผู้ให้บริการถือว่าถูกมาก และสเปคเครื่องไม่ได้น่าเกลียด และไว้ใช้งานประจำวันได้

ข้อสังเกตคือ มันออกมานานแล้วก็ต้องทำใจเรื่องของการอัปเกรดต่อไปที่อาจจะไม่สามารถไปต่อได้ในที่สุด ทั้งหมดต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะจริงมากน้อยแค่ไหน

iPhone 6s Plus
มือถือรุ่นฮิตอีกรุ่นที่ยังคงมีขายกับผู้ให้บริการในบางราย จุดเด่นคือหน้าจอใหญ่และเป็นมือถือรุ่นแรกที่มี 3D Touch จออ่านแรงกดและบอกเมนูลัดได้หรือ แสดงข้อความได้โดยไม่ต้องกดเข้าไปอ่านได้

แต่ข้อสังเกตคือ สเปคอาจจะเก่าไปหน่อยจนทำให้หลายคนเริ่มหาตัวเลือกอื่นเช่น iPhone 7 / iPhone 7 Plus ที่ยังคงมีผลิตและให้เลือกอยู่ แถมยังกันน้ำ แม้ว่าไม่มีช่องเสียบหูฟังก็ตาม

iPhone 7 / iPhone 7 Plus >> Hands On

สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีจุดเด่นคือ มันเป็นมือถือที่ราคาไม่เกิน 2 หมื่นในราคาเริ่มต้น แต่ก็สามารถได้เทคโนโลยีกันน้ำในมาตรฐาน IP67 และสเปคเครื่องยังเร็วเมื่อเทียบกับสมัยนี้

แต่ข้อสังเกตคือสีลอกที่ยังพบเห็นในบางเครื่องและ ไม่มีช่องเสียบหูฟัง แถมมันยังไม่มี Wireless Charge เท่านั้นเอง

iPhone 8 / iPhone 8 Plus >> Hands On

จะเรียกว่ามือถือ iPhone รุ่นสุดท้ายที่มีปุ่ม Home และใช้หน้าจออัตราส่วน 16:9 นิ้ว มีความละเอียดให้เลือกทั้งแบบปกติที่เป็น Retina Display และ Full HD แบบ iPhone 6 / iPhone 6 Plus แต่สีสันของหน้าจอสวยงามกว่าเดิม และสเปคยกเครื่องใหม่ และมีกล้องดีพอๆ กับ iPhone X และรองรับ Wireless Charge ตัวแรก

ข้อสังเกต แน่นอนว่าราคาอาจจะไม่แตกต่างจาก iPhone 7 และ iPhone 7 Plus บางคนก็เห็นว่าหน้าตามันออกมานานแล้ว ก็อยากได้เปลี่ยนแปลงใหม่ ก็อาจจะไปเลือกตัวใหม่อย่าง iPhone X เป็นต้น

iPhone X >> Hands On

มือถือที่มีจุดเริ่มต้นของคำว่ามีติ่ง ที่หน้าจอ มีจุดเด่นนอกจากดีไซน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก และมีกล้องหลังคู่ที่มีระบบกันสั่นมาให้ทั้งคู่ ขนาดถือว่าได้ถนัดมือ หน้าจอ OLED สวยและให้สีคมชัดเจน

ข้อสังเกต ที่หลายคนเจอคือปัญหาเรื่องทัชสกรีนในบางเครื่อง, Face ID ที่บางครั้งทำงานไม่ได้ และราคาเปิดตัวแพงเหลือเกิน

iPhone XS
รุ่นพัฒนาต่อจาก iPhone X เน้นเรื่องของการอัปเกรดกล้องและระบบ Face ID ที่ทำงานเร็วขึ้นจริง มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ที่มี Smart HDR, รองรับการอัดเสียงวิดีโอแบบ Stereo (จริงๆ ทำได้ทั้ง iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR) และมีระบบกันสั่นที่ดีขึ้นกว่าเดิมชัดเจน แถม CPU ประหยัดไฟกว่าเดิม

แล้วข้อสังเกตคือ มันแตกต่างจาก iPhone X น้อยมาก และราคาของมันนั้นแม้ไม่ได้แตกต่างจาก iPhone X ตอนเปิดตัว แต่ทุกวันนี้คู่แข่งและตัวเลือกที่ทำงานได้ดีกว่าก็มีให้เลือกเหมือนกัน หรือจะเอา iPhone X แทนก็ไม่ได้น่าเกลียดแต่อย่างใด

iPhone XS Max >> Review

ถัดมากับ iPhone XS Max มีจุดเด่นคือหน้าจอใหญ่โตอลังการ เมื่อหน้าจอใหญ่แล้วทำให้ลำโพงมีการปรับให้ดังขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ยังได้แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone XS ก็จัดว่าเป็น iPhone ที่ใช้ได้นานเลยทีเดียว

แต่มีข้อสังเกตที่หลายคนรวมถึงสาวกต้องคิดหนักคือ ความแตกต่างภาพรวมของ iPhone XS และ iPhone XS Max ไม่มีอะไรมากแค่หน้าจอใหญ่ขึ้น และราคานั้นเริ่มต้นที่ 44,000 บาท มีทอน ก็ทำให้คิดหนักว่า จะคุ้มไหมเมื่อ iPhone มีราคาเท่ากับ Macbook แล้ว

iPhone XR >> Review

ปิดท้ายด้วยรุ่นที่กลับมาหลากหลายสีอย่าง iPhone XR มีจุดเด่นในเรื่องของสีสันที่สวยและมีให้เลือกมากมาย พร้อมกับวัสดุเป็นอะลูมิเนียม ทนทานและตกไม่ค่อยเป็นรอยเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังได้กล้องตัวเดียวกับ iPhone XS แม้จะเสียความสามารถในเรื่องการซูมไปก็ตาม แถมแบตเตอรี่ครองตำแหน่ง ทนทานที่สุดของ iPhone

ข้อสังเกตของ iPhone รุ่นนี้คือ น้ำหนักของเครื่องที่หลายคนบอกว่ามากไปหน่อย และขอบหน้าจอ LCD ที่หนากว่า แม้ว่าจะไม่ได้มีผลอะไรในด้านการใช้งาน แต่ว่า ก็มีผลกับบางคนที่ใช้ iPhone ขอบจอบ้างอย่าง iPhone X เป็นต้น และความละเอียดหน้าจอกลับน้อยกว่า iPhone 8 Plus เท่านั้นเอง

จากที่เห็นไปทั้งหมด ผู้เขียนก็ยังยืนยันว่า iPhone รุ่นที่คุ้มค่าและน่าเป็นเจ้าของที่สุด ยังคงเป็น iPhone 8 และ iPhone 8 Plus อยู่ดี เพราะสเปคนั้นไม่ได้เก่ามาก แต่ก็เป็นมือถือที่ไว้ใจได้ทุกสิ่งอย่างออกแบบได้ดีและเหมาะสม รองลงมา iPhone XR และ iPhone XS ดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของตัวผู้เขียนเอง ซึ่งไม่ได้หมายความว่า คุณจะเลือกตามผู้เขียน เพราะเหตุผลการเลือกซื้อของเครื่องนั้น แตกต่างกัน ผู้เขียนเองได้นำราคาตัวเครื่องมาตั้งและ เทียบกับฟีเจอร์และความสามารถของเครื่องเป็นหลักมากกว่า ดังนั้นคำตอบของคุณจะออกมาจากจุดเด่นและข้อสังเกตที่ได้เขียนไปในแต่ละรุ่นที่เห็นอยู่ข้างบนนี้

ที่มา: