ประกันสังคม เพิ่มค่าทำฟันจาก 900 เป็น 1,200 บาท พิพัฒน์แจง ป่วยเบิกค่ารักษาได้

ประกันสังคม เพิ่มค่าทำฟันจาก 900 เป็น 1,200 บาท พิพัฒน์แจง ป่วยเบิกค่ารักษาได้


ค่าทำฟัน ประกันสังคม เพิ่มเป็น 1.2 พัน จาก 900 บาท พิพัฒน์ แจงป่วยเบิกค่ารักษาได้ 

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ดำเนินรายการโดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน และไอซ์ รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม.พรรคประชาชน ร่วมรายการ

นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า เตรียมตั้งกรรมการตรวจสอบภายใน ย้อนหลังว่ามีอะไรไม่ถูกต้องบ้าง แต่ก็ต้องออกมาชี้แจงต่อสังคม เป็นความรับผิดชอบในฐานะดูแลกระทรวงนี้ แม้เรื่องที่เอาออกมาบอกจะเป็นเรื่องของรัฐบาลที่แล้วก็ตาม

ขณะที่สัดส่วนของบอร์ดแพทย์ ที่จะหมดวาระในสิ้นเดือนนี้ รับปากว่าจะต้องมีตัวแทนจากฝ่ายประกันสังคมก้าวหน้าเสนอชื่อเข้ามาด้วย

นายพิพัฒน์ ระบุว่า ต้องยอมรับว่าตนไม่ได้เป็นนักการเมืองมา แต่ด้วยการเป็นนักบริหารมืออาชีพ เมื่อเข้ามาก็ต้องดูเรื่องใหญ่ก่อน คือเรื่องผลตอบแทนของกองทุนประกันสังคม

ด้านไอซ์ รักชนก ศรีนอก ระบุว่า ตามไทม์ไลน์แล้ว ถ้าดูกองทุนประเกันสังคมจะเจ๊งในอีก 20-30 ปี ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะตามเวลาแล้ว คนอายุ 26 ปี ถ้าส่งประกันสังคมไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายเมื่อจะใช้เงินจะไม่มี ต้องรื้อโครงสร้างประกันสังคม ไม่ใช่แค่การจัดประชุมอย่างเดียว

เรื่องของบอร์ด อย่างบอร์ดแพทย์ชุดเล็ก ก็เป็นคนคุมการใช้เงิน 7 หมื่นล้าน ตัดสินใจว่ารักษาโรคไหนได้ กี่บาท คิดว่าสิทธิ์ 5 % ที่จ่ายเป็นอย่างไร แต่ก็มีความรู้สึกว่าแย่กว่าสิทธิบัตรทอง เมื่อไปดูรายชื่อ ก็พบว่าบางคนเป็นตัวแทนโรงพยาบาลเอกชน เป็นตัวแทนกองทุนสปสช. แล้วไม่คุยกันเหรอว่าทำไมสิทธิมันต่างกัน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ที่บอกว่าสิทธิน้อยกว่าบัตรทอง ก็ได้หารือกับสปส.มาโดยตลอด ว่ามีผู้ประกันตนโวยมาพอสมควร ก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหา แต่ไม่ใช่แก้วันนี้แล้วจะจบวันนี้ การดูแลรักษาพยาบาล นอกจากไปโรงพยาบาล ก็ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก มีตู้ไปตรวจสอบสุขภาพ มีแพทย์ให้คำปรึกษาผู้ประกันตนไหม ก็คุยกันโดยตลอด บอร์ดแพทย์ ก็บอกจะจัดซื้อจัดจ้างให้สะดวกขึ้น อะไรที่สปสช.ดีกว่า ก็ไม่อายที่จะเลียนแบบ จี้บอร์ดแพทย์เลย ว่าทำไมไม่ทำแบบเขา อย่าไปอาย เขาก็บอกกำลังทำอยู่

ไอซ์ รักชนก กล่าวว่า รัฐมนตรีต้องวางนโยบายได้ ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องปลดออก ทำงานไมได้ ก็ต้องปลดออก จะเอาไว้ทำไม เป็นอำนาจเต็มของรัฐมนตรีอยู่แล้ว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เราใช้อำนาจปลดไม่ง่ายอย่างที่คิด เขามีอายุ มีวาระอยู่แล้ว บอกได้แต่ขอให้ช่วยลาออกเถอะ แต่ตอนนี้จะหมดเทอมอยู่แล้ว ก็ให้ทุกฝ่ายส่งคนเข้ามาร่วมในบอร์ด แล้วตอนนั้นก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่ขอให้เป็นแพทย์ ตนเป็นคนเซ็น แต่คนเข้ามาก็หารือร่วมกัน ทุกอย่างเราควรจะมานั่งสุมหัว

นายสรยุทธ ถามว่า บอร์ดแพทย์มีสมาคมโรงพยาบาลเอกชนด้วย จะมีส่วนได้เสีย หรือไม่

รักชนก กล่าวว่า บอร์ดแพทย์เป็นคนเคาะสิทธิรักษาทุกอย่างเป็นอำนาจแต่งตั้งของรัฐมนตรี ไม่มีสัดส่วนผู้ใช้บริการ ก็ไม่มีตัวแทนไปพูด ตอนเวลาผู้ประกันตนไปรักษา อย่างทำฟันได้ 900 บาท จริงๆ ทำได้มากกว่านั้นถ้าเป็นโรงพยาบาลในสิทธิ แต่ไม่มีใครบอกเพราะเขาไม่อยากให้เบิกเยอะ เพราะถ้าให้สิทธิเพิ่มก็เบิกกองทุนเพิ่ม รายได้ก็น้อยลง รพ.เอกชน บางที บอกให้เชิญชวนเลยว่าจะทำกำไร จากประกันสังคม จาก 4 พันบาท เป็น 6 พันบาทต่อหัว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เรามีความเห็นต่างได้ ก็ควรมีตัวแทนจากโรงพยาบาลเอกชน ให้มาสะท้อน 1-2 เสียง ไม่ใช่เสียงเด็ดขาด ก็คงเห็นว่าโรงพยาบาลเอกชนลูกข่ายของสปสช. บอกเงินไม่พอ จะออกจากระบบ เขาก็มีปัญหาของเขา ถ้าไม่เชิญร่วมมาเป็นกรรมการก็ไมได้รับการสะท้อนปัญหา แต่ก็ต้องมีแพทย์เป็นหลัก

ไอซ์ รักชนก ถาม ถ้าสปสช.ดีกว่าทำไมไม่เอาสิทธิการรักษาของสปส.ให้สปสช.ดูแลเลย

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ก็มีตัวแทนของสปสช.มาอยู่ แต่จะเอามาหมดไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของสาธารณสุข สปสช. ควรมีสิทธิเลือกบอร์ดเราเอง เอาตัวแทนจากหลายๆฝ่ายเข้ามาเป็นคณะกรรมการ โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญ และการที่ดีที่สุดคือการไปดูงานต่างประเทศ เอาสิ่งที่ดีมาเติมเต็ม

ไอซ์ รักชนก บอก การดูงานไม่ผิด แต่ประชาชนก็ต้องตัดสิน เหมือนส.ส.ไปดูงาน ประชาชนก็ต้องตัดสินเหมือนกัน แต่สิ่งที่คุยคือมันคุ้มค่ากับผู้ประกันตนไหม การไปดูงานไม่รู้กี่ครั้งเอาอะไรมาปรับ ไม่ใช่กลับมาแล้วห่วยเหมือนเดิม

นายพิพัฒน์ บอกว่า สปสช. เรามีการปรับปรุงตลอดเวลา จะบอกว่าห่วยเหมือนเดิมไม่ได้ อย่างเรื่องทำฟันก็มีรถโมบายล์ไปรักษา ซึ่งสปสช.ไม่มี แต่ก็กำลังจะเพิ่มจาก 900 บาท เป็น 1200 บาท ส่วนที่เราดีกว่าก็มี อะไรที่ไม่ดีกว่าก็ยอมรับ และต้องประชาสัมพันธ์ว่าสิทธิรักษาพยาบาลในช่องปาก ทำได้ แต่ 900 บาท คืองบป้องกันเท่านั้น


ที่มา: matichon.co.th/local/quality-life/news_5059389