รถยนต์ไร้คนขับของ google ใช้ได้บนถนนปลอดภัยจริงหรือไม่

     หลังจาก Google ทำโปรเจครถยนต์ไร้คนขับที่ชื่อว่า Google Self-Driving Car มากว่า 6 ปี ตัวเลขสถิติที่น่าตกใจก็ได้รับการเปิดเผยออกมาแล้ว เพราะกว่า 1.7 ล้านไมล์ของการทดลอง เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยขึ้นเพียง 11 ครั้ง และทุกครั้งล้วนแต่เกิดจากน้ำมือมนุษย์เพื่อนร่วมถนนทั้งสิ้น !

      อุบัติเหตุเล็กน้อย 8 ครั้งจาก 11 ครั้งเกิดจาก รถคันหลังขับมาจ่อมากเกินไปทำให้เวลารถคันหน้า(รถของ Google)ที่หยุดแล้วโดนจูบเบาๆเข้าที่ท้าย ซึ่งก็ถือเป็นความผิดพลาดจากน้ำมือของคนขับที่เป็นมนุษย์เอง เพราะกฏหมายของทุกประเทศล้วนกำหนดเอาไว้แล้วเวลาขับรถบนถนนต้องเว้นระยะห่างจากคันหน้าให้มากเพียงพอเสมอ

      ด้วยกล้องและเซนเซอร์ที่เห็นรอบตัว 360 องศา Google ได้ค้นพบว่า คนขับรถยนต์มีพฤติกรรมเสี่ยงจากการละความสนใจของตนออกจากท้องถนนอยู่เสมอไม่ว่าจะเล่นโทรศัพท์มือถือ อ่านหนังสือ ฯลฯ ระหว่างขับรถ ตามสถิติในอเมริกามีคนทำพฤติกรรมแบบนี้สูงถึง 660,000 ราย อย่างรายที่หนักที่สุดที่ Google เคยตรวจพบคือเล่นทรัมเป็ตไปขับรถไปด้วย !

     จากในภาพตัวอย่างด้านบน นี่คือภาพที่รถยนต์ของ Google มองเห็นโลก เราจะเห็นว่า รถคันซ้าย(กล่องลิ่มสีม่วง) ได้แหวกเข้ามาในระยะปลอดภัย(เส้นทางสีเขียว)ของรถ google สาเหตุน่าจะเกิดจากคนขับลืมไปว่าต้องเลี้ยวเลยทำการเลี้ยวฝ่าเลนเข้ามา เมื่อเซนเซอร์ตรวจพบ จึงทำการหยุดรถเพื่อเปิดทางให้ ทำให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุไปได้ ในทำนองเดียวกันถ้าคนขับเลนขวาเป็นมนุษย์และไม่ทันระวังเพราะเห็นว่าเลนของตนตรงไปได้ ก็อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็เป็นได้

     ในอนาคตเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับจะพัฒนามากขึ้นและเข้ามาร่วมใช้ท้องถนนกับคนขับรถทั่วไป หากการเข้ามาของยานยนต์ในกลุ่มนี้สามารถลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะความสูญเสียที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว

ที่มา :  Chris Urmson
ขอบคุณรูปภาพจาก :  Chris Urmson