วิธีการสังเกตมือถือว่ามีคุณสมบัติกันน้ำหรือไม่ และป้องกัน เตรียมพร้อมเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์

วิธีการสังเกตมือถือว่ามีคุณสมบัติกันน้ำหรือไม่ และป้องกัน เตรียมพร้อมเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์

หมวดหมู่: บทความทั่วไปGadget Reviewข่าวไอที

วิธีการสังเกตมือถือที่มีคุณสมบัติกันน้ำ คือดูที่สเปคของเครื่องที่ข้อมูล หรือบริเวณกล่องมือถือ จะมีระบุค่ามาตรฐาน IP Code ด้วย ซึ่งหลายท่านที่ชมโฆษณามือถือ ที่สามารถกันน้ำได้จะมี ค่ามาตรฐาน IP CODE แสดงบนหน้าจอ หรือหน้าป้ายโฆษณา เช่น IP 67 บนมือถือ Samsung Galaxy S5 หรือ IP 68 บนมือถือ Sony
ip-rating-ip-codeIP Code ( หรือ IP rating) ย่อมาจาก International Protection Marking หรือ Ingress Protection Marking เป็นค่ามาตรฐานสากลที่ทาง IEC (International Electrotechnical Commission) ค่ามาตรฐานสากลที่บ่งบอกถึงระดับในการป้องกันจากของแข็งและของเหลว โดยตัวเลขตำแหน่งแรก คือความสามารถการป้องกันของแข็ง (ระดับ 0-6 ) และ ตัวเลขหลักที่ 2 คือความสามารถป้องกันของเหลว (ระดับ 0-8)

ตัวเลขตำแหน่งแรก คือ ระดับการป้องกันของแข็ง
0 : ไม่สามารถป้องกันของแข็งอะไรได้เลย
1 : ป้องกันของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 50 มิลลิเมตรเข้ามาภายในอุปกรณ์
2.: ป้องกันของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 12.5 มิลลิเมตรเข้ามาภายในอุปกรณ์
3 : ป้องกันของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 มิลลิเมตรเข้ามาภายในอุปกรณ์
4 : ป้องกันของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 มิลลิเมตรเข้ามาภายในอุปกรณ์
5 : ป้องกันฝุ่งละอองได้เล็กน้อย
6 : ป้องกันฝุ่งละอองได้

ตัวเลขตำแหน่งที่ 2 คือ ระดับการป้องกันของแข็ง
0 : ไม่สามารถป้องกันของเหลวอะไรได้เลย
1 : ป้องกันน้ำที่ตกจากแนวดิ่ง (ป้องกันเฉพาะน้ำที่ตกมาโดนจากแนวตั้ง 90 องศา)
2 : ป้องกันน้ำจากแนวตั้งทำมุมเอียง 15 องศา
3 : ป้องกันน้ำจากแนวตั้งทำมุมเอียง 60 องศา
4 : ป้องกันน้ำได้ทุกทิศทาง
5 : ป้องกันโทรศัพท์จากการถูกฉีดด้วยน้ำแรงดันต่ำทุกทิศทาง
6 : ป้องกันการถูกฉีดด้วยน้ำแรงดันต่ำ และสามารถเปียกน้ำได้เพียงชั่วครู่
7 : ป้องกันการแช่น้ำที่ความลึก 15 -100 ซม. หรือป้องกันน้ำได้ 1 เมตร
8 : ป้องกันการแช่อยู่ในน้ำ และสามารถใช้งานในน้ำได้

ดังนั้นการที่นำมือถือมาลุยเล่นน้ำด้วยได้นั้นต้องเลือกที่มีค่า IPในเลขท้ายสุดสูงๆ โดยเฉพาะ IP 68 จะเป็นรุ่นที่กันน้ำกันฝุ่นได้ดีที่สุด ถึงขั้นแช่ในน้ำลึก และถ่ายภาพใต้น้ำได้โดยไม่ต้องใส่ซองกันน้ำเลย อย่างไรก็ตาม การทดสอบนี้ทดสอบกับน้ำบริสุทธิ์ เท่านั้น หากนำไปเล่นน้ำคลอง น้ำทะเล ก็อาจเป็นอันตรายต่อมือถือได้เช่นกัน แต่อย่างน้อยรุ่นที่มีมาตรฐานที่มีเลขท้ายของ IP สูงๆสามารถกันน้ำได้ระดับนึง

แต่ถ้ามือถือของเราไม่กันน้ำเลย ซึ่งส่วนใหญ่มือถือจะไม่ค่อยกันน้ำอยู่แล้ว ก็มีวิธีอื่นที่ป้องกันไม่ให้มือถือเปียกน้ำได้ เช่น

ใส่ซองกันน้ำ ซึ่งมีหลายแบบหลายราคา ถ้าราคาถูกก็ได้เพียงแค่พอกันสาดเท่านั้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญซ่อมมือถือให้ข้อมูลว่า หากซื้อซองกันน้ำธรรมดาแล้วเกิดมีรูเพียงเล็กน้อยที่อากาศเข้าไปได้ น้ำ หรือความชื้นก็จะค่อยๆซึมเข้าไป ทำให้มือถือพังได้ถ้าจะให้มือถือที่ใส่ซองกันน้ำเล่นน้ำแล้วไม่เปียกไม่มีน้ำเข้าเลย ต้องเป็นซองที่ปิดมิดชิดไม่ให้มีช่องให้อากาศหรือน้ำเข้าไปในซองได้เลย ซึ่งซองแบบนี้ราคาจะแพงกว่าซองธรรมดา

Waterproof-Case-premium

 

Phone-Waterproof

อีกวิธีนึงเริ่มเป็นที่นิยมทำคือ นำโทรศัพท์มือถือมาเคลือบกันน้ำ  ซึ่งวิธีนี้จะต้องทำการแกะเครื่องสมาร์ทโฟน นั่นหมายความว่า หากมือถือโดนแกะเครื่องแล้ว เครื่องจะหมดประกันทันทีด้วย วิธีนี้ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยกันน้ำกันได้ ทั้งนี้ มือถือ iPhone ก็สามารถนำมาเคลือบกันน้ำได้ แต่ร้านที่รับเคลือบกันน้ำ มีไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่ดังๆ เช่น ร้าน Hashtag ชั้น 4 Centralworld และ Storm Shadow ตึกคอม จ.ชลบุรี ราคาอยู่ประมาณ 1,000 กว่าบาท


วิธีที่ปลอดภัยสุดคือนำมือถือเก็บไว้ที่บ้าน ที่พัก ล็อกเกอร์ไว้จะดีกว่า

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
user
โดย Admin ITGenius
เข้าชม 3,723 ครั้ง

คำค้นหา : วิธีการสังเกตมือถือว่ามีคุณสมบัติกันน้ำมือถือกันน้ำซองมือถือกันน้ำIP CodeInternational Protection Marking Ingress Protection Markingค่ามาตรฐานสากลที่ทาง IECะดับในการป้องกันจากของแข็งและของเหลว