วิวัฒนาการของ เมาส์

วิวัฒนาการของ เมาส์

    เมาส์ตัวแรกถูกคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ปี 1964 แต่เปิดตัวสู่สาธารณชนในปี 1968 ในงาน Mother of ALl Demos ที่จัดโดยสถาบัน Stanford Research Institute Douglas Engelbart ภายในงานมีการโชว์เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์หลายสิ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ เมาส์ นั่นเอง

        เมาส์ในสมัยนั้นจะใช้การจับเคลื่อนไหว แกน X และแกน Y บนหน้าจอ ทำงานด้วยล้อภายในเมาส์ที่มีอยู่ 2 ล้อ สำหรับจับการเคลือ่นที่แนวตั้ง 1 ล้อ และแนวนอนอีก 1 ล้อ เทคนิคนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรว่า SRI ได้รับการยอมรับในปี 1970 โดยมีบริษัทที่ถือสิทธิบัตร คือ Apple และ Xerox

        ในช่วงเวลาที่เมาส์แบบ SRI อยู่ในระหว่างการพัฒนา Telefunken บริษัทในประเทศเยอรมัน ก็มีการพัฒนราเมาส์เหมือนกัน แต่มีการออกแบบตัวเมาส์เป็นทรงกลม และใช้เทคโนโลยีจับความเคลื่อนไหวด้วยลูกบอล (Ball-type mechanical) ไม่ได้ใช้ 2 ล้อ แบบ SRI

        Alto เมาส์ตัวนี้เป็นเมาส์รุ่นแรกๆ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ผลิตโดย Xerox PARC วางจำหน่ายให้ผู้ใช้ทั่วไปได้สัมผัสเป็นครั้งแรกในปี 1973 ได้รับความนิยมอย่างมากในบริษัท Xerox และในมหาวิทยาลัย บนเมาส์มี 3 ปุ่ม ซึ่ง Alto ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วตั้งแต่มันถูกวางจำหน่าย

        ในขณะที่เมาส์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดนิยมใช้ Ball-style mechanism (เมาส์ลูกกลิ้ง) ซึ่งปัญหาของเมาส์แบบนี้ คือ ปัญหาฝุ่นจับ ซึ่งทำให้เมาส์จับเคลื่อนไหวได้ลำบากเมื่อใช้ไปนานๆ ในช่วงประมาณปี 1981 Steven Kirsch ได้พัฒนาเมาส์แบบ Optical ขึ้นมาเป็นครั้งแรก ซึ่งเปิดตัวในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับเมาส์ของ Richard Lyon จาก Xeroxเมาส์แบบ Optical ใช้การจับความเคลื่อนไหวของแสงเลเซอร์แทนลูกบอล ซึ่งเทคโนโลยีใหม่นี้จับความเคลื่อนไหวได้ดีกว่าเมาส์แบบลูกกลิ้งเป็นอย่างมาก แต่ว่าในยุคนั้นจำเป็นต้องใช้ร่วมกับแผ่นรองเมาส์แบบพิเศษ หรือพื้นผิวที่รองรับโดยเฉพาะ ถึงจะทำงานได้

        เมื่อครั้งที่ Steve Jobs ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์วิจัยของ Xerox PARC ในปี 1979 เขาตื่นเต้นกับนวัตกรรมตัวนี้มาก เป็นแรงบันดาลใจให้เมื่อ Apple เปิดตัวคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Apple Lisa ในปี 1983 หนึ่งในสิ่งที่มาพร้อมกับเครื่องแมคอินทอชรุ่นนี้ ก็คือ เมาส์ตัวนี้นี่เอง

      หลายปีถัดมา วิวัฒนาการของเมาส์ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนอกจากด้านดีไซน์ คนส่วนใหญ่ยังนิยมใช้เมาส์แบบลูกกลิ้งกันอยู่ ในปี 1996 ไมโครซอฟท์เปิดตัวเมาส์ Microsoft IntelliMouse ซึ่งเป็นเมาส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ต่อมาในปี 1999 ทางไมโครซอฟท์ได้จับเมาส์ยอดนิยมตัวนี้มาเปลี่ยนเทคโนโลยีภายใน เอาลูกกลิ้งออก และเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีแบบ Optical (LED) แทน แต่ว่าเมาส์ตัวใหม่จากไมโครซอฟท์นี้ไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นรองเมาส์แบบพิเศษในการทำงานอีกต่อไปแล้ว

        Trackball เมาส์ที่กลับเอาตัวลูกกลิ้งมาไว้ด้านบน ผู้ใช้จะใช้นิ้วกลิ้งบอลเพื่อเลื่อนเคอร์เซอร์บนจอ มันเป็นการออกแบบที่มาตั้งแต่ปี 1950 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยทางทหารของประเทศแคนาดา ในชื่อโปรเจคส์ DATAR ในปี 2000 ไมโครซฟอท์ได้เปิดตัวเมาส์แบบ Trackball โดยมีดีไซน์ที่โดดเด่น ในชื่อ Trackball Explorer และ Trackball Optical devices มันไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ในหมู่ผู้ใช้ แต่เมาส์รุ่น Explorer เป็นที่นิยมในหมู่นักสะสม เพราะมันมีดีไซน์เท่

        Apple มีแนวทางการพัฒนาเมาส์ของตนเอง และพยายามฉีกแนวทางการออกแบบ ในปี 1998 ทางบริษัท Apple ได้เปิดตัวเมาส์ที่ใช้พอร์ท USB เป็นตัวแรกของโลก พร้อมกับ iMac แต่การออกแบบเป็นทรงมนขอมันไม่ประทับใจผู้ใช้สักเท่าไหร่ คนส่วนใหญ่นิยมเรียกมันว่า Hockey puck ในปี 2000 Apple จึงเปิดตัวเมาส์รุ่นใหม่ Apple Pro mouse มีดีไซนืเรียบง่ายและซ่อนปุ่มไว้ใต้ตัวเมาส์

        Apple ไม่ใช่บริษัทเดียวที่พยายามออกแบบสินค้าให้มีความน่าสนใจเพื่อให้ขายได้ ในปี 2004 ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวเมาส์แบบ Optical ใช้ชื่อรุ่น S+ARCK ออกแบบโดยนักออกแบบ Phillippe Starck เป็นเมาส์ตัวแรกจากไมโครซอฟท์ที่ได้รับนิยามว่า Artistically styled การออกแบบของมันคำนึงถึงหลัก Symmetrical ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้จับมันได้อย่างสบาย

        มองแว้บแรกอาจจะนึกว่าเป็นโทรศัพท์มือถือ แต่นี่คือเมาส์จกา Sony ที่ออกแบบมาสำหรับโน๊ตบุ้กตระกูล VAIO เปิดตัวในปี 2006 ใช้ชื่อว่า Mouse Talk (VN-CX1) เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ท USB สามารถใช้งานร่วมกับ Skype ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปุ่ม Scroll จะเปลี่ยนเป็นปุ่มเพิ่ม/ลด เสียงได้ เวลาทำการสนทนา ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ล้ำมากในขณะนั้น เพราะยุคนั้นคอมพิวเตอร์พกพาส่วนมากไม่ได้มีไมค์ในตัวเหมือนปัจจุบัน

         การเติบโตของคอมพิวเตอร์แบบพกพาทำให้อุตสาหกรรมเมาส์ก้าวตามไปด้วยพร้อมๆ กัน ผู้ผลิตหาทางออกแบบเมาส์แบบพกพามาตอบโจทย์ผู้ใช้ ย้อนไปในปี 1984 Logitech เป็นผู้ผลิตเมาส์ไร้สายรายแรกของโลก ซึ่งใช้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Metaphor ของค่าย Xerox  ในปี 2005 Logitech ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวเมาส์ไร้สายแบบพกพาที่บางที่สุดในโลก Mogo บางเฉียบเหมือนเครดิตการ์ด สามารถจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ด้วยพอร์ท PC Card slot (สมัยก่อนเป็นพอร์ทที่นิยมมาก)

        ในปี 2008 Slimtrix ได้เปิดตัวแหวนที่ผู้ใช้สามารถใช้มันเป็นเมาส์หรือปากกาได้ ออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถใช้เมาส์ได้โดยไม่ต้องยกมือออกจากคีย์บอร์ด อย่างไรก็ตามมันเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างเฉพาะทาง

       ในปี 2009 Apple ทำการปรับปรุง Pro mouse ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2005 ด้วยการใส่เทคโนโลยี Multi-direction, Touch-sensitive 2 ปุ่ม, สามารถใส่โปรแกรมให้ปุ่มด้านข้างของตัวเมาส์ เป็นเมาส์ที่ล้ำยุคมากในเวลานั้น ผู้ใช้สามารถใช้คำสั่ง Gesture และคลิกบริเวณไหนของเมาสก็ได้

        ในปี 2010 ไมโครซอฟท์ได้เผยนัวตกรรมด้านการออกแบบอีกครั้งกับเมาส์ Flexible Arc ตัวเมาส์สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ เพื่อให้สะดวกแก่การพกพา เวลาพกจะแบนราบ เมือ่ต้องการใช้งานก็ดัดให้โค้งขึ้นมา ตัวเมาส์มีปุ่ม 2 ปุ่ม และสกอร์บาร์แบบสัมผัส ใช้เทคโนโ,ยี BlueTrack ในการจับความเคลื่อนไหว ทำให้ใช้บนพื้นผิวแบบไหนก็ได้ แม้แต่บนพื้นไม้ที่ขรุขระ

        การออกแบบของเมาส์มีการก้าวกระโดดไกลมากทีเดียวในปี 2012 ค่าย Thermaltake ได้จับมือกับ BMW ออกแบบเมาส์สำหรับการเล่นเกม Level 10M ตัวเมาส์สามารถปรับแต่งตัวบอดี้ทั้งความกว้าง และองศาที่สัมผัสให้เข้ากับมือผู้ใช้ได้มากที่สุด แต่ละปุ่มสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ

        ในปัจจุบัน เมาส์ได้พัฒนาให้มีความแม่นยำ และทำงานได้ราบรื่นกว่าอดีตมาก แต่ละค่ายมีการผลิตและออกแบบแตกต่างกันออกไป และบางเจ้าก็เลือกที่จะทำเมาส์ที่ดีไซน์น่ารักและนุ่มสบายเวลาใช้งาน

ที่มา: https://news.thaiware.com/