วิเคราะห์สิ่งที่ "แจส โมบาย" จะต้องรับผิดชอบและสูญเสีย

แผ่นดิน 4จี สะเทือนแน่ 7ข้อที่ต้องรู้ ถ้า แจส โมบาย เบี้ยวหนี้ไม่มาตามนัด
วิเคราะห์สิ่งที่ "แจส โมบาย" จะต้องรับผิดชอบและสูญเสีย หากไม่ชำระเงินงวดแรก 8,040 ล้านบาทให้กับ "กสทช." หลังประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ชนะ…

ตกเป็นประเด็นที่หลายคนกำลังจับตามอง กับการชำระเงินค่าธรรมเนียมประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ในงวดแรกของ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชนะการประมูลในชุดคลื่นความถี่ 895-905 เมกะเฮิรตซ์ คู่กับ 940-950 เมกะเฮิรตซ์ ด้วยวงเงิน 75,654 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากเงื่อนไขการประมูลฯ ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุไว้นั้น ผู้ชนะการประมูลฯ จะต้องชำระเงินงวดแรกภายใน 90 วัน ซึ่งเท่ากับว่ากำหนดเส้นตายในการชำระเงินวันสุดท้าย จะตรงกับวันที่ 21 มี.ค. 2559 ซึ่ง แจส โมบาย จะต้องชำระเงินงวดแรกด้วยมูลค่า 8,040 ล้านบาท

แต่เมื่อสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่า แจส โมบาย จะติดต่อ กสทช.​ เพื่อชำระเงินดังกล่าวภายในกำหนดหรือไม่ จึงทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า "หาก แจส โมบาย ไม่มาชำระเงินตามกำหนดในงวดแรก จะเกิดอะไร? กระทบกับใบอนุญาต 4จี หรือไม่?"

เราได้รวบรวมและวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ พร้อมทั้งหาคำตอบมาให้คุณ ว่าหาก แจส โมบาย เบี้ยวนัด จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...?

1. หากสถานการณ์ในวันที่ 21 มี.ค. ภายในเวลา 16.30 น. ยังไร้วี่แวว แจส โมบาย ติดต่อเพื่อเข้าชำระเงินกับ กสทช. สิ่งแรกที่จะต้องเกิดขึ้นกับ แจส โมบาย อย่างแน่นอน คือการยึดเงินประกันในการเข้าร่วมประมูล ซึ่งมีมูลค่า 644 ล้านบาทไปแบบฟรีๆ

2. สิ่งที่ แจส โมบาย ต้องนำมาในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ไม่ได้มีเพียงค่าธรรมเนียม 8,040 ล้านบาท แต่ยังต้องมีหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน เพื่อยืนยันว่า แจส โมบาย จะสามารถชำเงินส่วนที่เหลืออีกราว 67,614 ล้านบาทได้ตามจำนวน อีกด้วย

3. ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น แต่หากในอนาคตมีการจัดประมูลขึ้นอีก แจส โมบาย ก็จะติดแบล็กลิสต์!!! หรือหมายความว่าไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้อีก

4. นอกจากนี้ อาจถูกสั่งปรับในฐานะที่ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งมูลค่าการสั่งปรับอาจอยู่ที่หลักหลายสิบล้านบาท หรือร้อยล้านบาทขึ้นไป!

5. ท้ายที่สุด... กสทช. อาจเสนอเปิดประมูลคลื่นชุดดังกล่าวใหม่ โดยคาดว่าราคาตั้งต้นประมูลจะอยู่ที่ 75,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาเดิมจากการประมูลของ แจส โมบาย

6. แต่หากว่าไม่มีผู้สนใจประมูลคลื่นดังกล่าว กสทช. ก็จะพักคลื่นดังกล่าวไว้เป็นเวลา 1 ปี เพื่อรอการจัดสรรใหม่ และแน่นอนว่า แจส โมบาย จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น!!! อาทิ ค่าความเสียหาย ส่วนต่างราคาประมูลที่ลดลง หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายในการจัดประมูล เป็นต้น

7. อย่างไรก็ตาม หาก แจส โมบาย สามารถชำระเงิน 8,040 ล้านบาท ได้ทันตามกำหนดเวลา! กสทช. ก็จะพิจารณาออกใบอนุญาตให้ในวันที่ 15 เม.ย. 2559 เนื่องจากต้องรอให้สิ้นสุดมาตรการเยียวยาลูกค้า 2จี ของเอไอเอส บนคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ชุดเดียวกัน ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองไว้ถึงวันที่ 14 เม.ย. 2559 แต่ถึงกระนั้น กสทช. ก็จะอนุมัติให้แจสสามารถนำเข้า และติดตั้งอุปกรณ์เพื่อเตรียมให้บริการได้ทันที ทั้งนี้ ก็เพื่อไม่ให้ แจส โมบาย เสียโอกาสในการดำเนินการทางธุรกิจ

แบบนี้คงบอกได้เพียงว่า... โปรดติดตามตอนต่อไป!

ที่มา: