สังกัด อปท. ให้ออกแบบหลักสูตรได้ตามอัตลักษณ์พื้นที่

สังกัด อปท. ให้ออกแบบหลักสูตรได้ตามอัตลักษณ์พื้นที่

 

ปลัด มท.เผยกระทรวงมหาดไทยยกระดับหลักสูตรของสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 48 แห่ง เป็นสถานศึกษาที่มีการจัดการศึกษาลักษณะพิเศษ มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ออกแบบหลักสูตรได้ตามอัตลักษณ์พื้นที่  

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยได้มุ่งเน้นสนับสนุนสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้มีการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ ด้วยการส่งเสริมให้ผู้เรียนทุกคนได้เรียนรู้ตามหลักวิชาการสามารถอ่านออก เขียนได้และคิดวิเคราะห์ได้อย่างดีเยี่ยม ควบคู่กับการเสริมสร้างทัศนคติ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีพื้นที่แสดงออกทางด้านความคิดสร้างสรรค์ และปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมในสถานศึกษา เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ของสังคมให้เติบโตขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นพลเมืองที่ดีในการพัฒนาประเทศอย่างเต็มที่ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนภารกิจในการส่งเสริมสนับสนุนการบริหารจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ กระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจึงพิจารณาเห็นชอบประกาศให้สถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 48 แห่ง เป็นสถานศึกษาที่มีการจัดการศึกษาลักษณะพิเศษ ซึ่งแต่ละสถานศึกษาจะสามารถออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนขึ้นเอง เพื่อเป็นหลักสูตรพื้นฐานของแต่ละแห่งในการพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ อันจะช่วยให้ผู้เรียนแต่ละบุคคลมีความรู้ความเชี่ยวชาญตามความชอบและความถนัดของตนได้เป็นอย่างดี โดยมีแนวทางการจัดทำหลักสูตร เช่น หลักสูตรความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ หลักสูตรความเป็นเลิศทางด้านดนตรี หลักสูตรความเป็นเลิศทางด้านกีฬา หลักสูตรความเป็นเลิศทางด้านศิลปะ หลักสูตรความเป็นเลิศทางด้านวิชาชีพ หรือ ด้านอื่นๆ ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ อาจจะจัดการศึกษาได้ทั้งในรูปแบบนักเรียนประจำตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สถาบันการพลศึกษา หรือ สถาบันทางการศึกษาของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่นกำหนด หรือ แบบนักเรียนไปกลับตามความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ

นอกจากนี้ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยรายได้และการจ่ายเงินของสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ยังได้มีการสนับสนุนให้สถานศึกษาที่มีการจัดการศึกษาลักษณะพิเศษสามารถเบิกจ่ายงบประมาณเกี่ยวกับค่าเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์สำหรับผู้เรียนในการฝึกกีฬา ฝึกงาน ฝึกปฏิบัติการ หรือ การแข่งขัน ค่าวัสดุ หรือ ครุภัณฑ์ ที่จำเป็นสำหรับจัดที่พักอาศัยให้แก่ผู้เรียนในสถานศึกษา ค่าประกันอุบัติเหตุผู้เรียน ค่าจ้างเหมาบริการซักรีดเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็น ค่าอาหารประจำวัน ค่าอาหารเสริมเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นได้ตามความจำเป็นเหมาะสม ตามอัตราที่กรมบัญชีกลาง หรือ ที่ส่วนราชการถือปฏิบัติอยู่ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้แต่ละสถานศึกษาสามารถดำเนินจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรลักษณะพิเศษของตนได้อย่างเต็มที่ ไม่ติดขัดปัญหาทางด้านงบประมาณและเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลในการเรียนรู้มากที่สุด

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า วันนี้ กระทรวงมหาดไทยพร้อมสนับสนุนทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศชาติในอนาคตจะเติบโตขึ้นไปเป็นกำลังพัฒนาสังคมให้เดินหน้าต่อไปอย่างมีความหวัง เพราะฉะนั้น วันนี้ จึงต้องมาร่วมกันออกแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความรู้ความถนัดของผู้เรียนแต่ละกลุ่ม เพื่อที่จะช่วยฝึกฝนและพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนทุกคนให้มีความเชี่ยวชาญและรอบรู้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ขอให้สถานศึกษาที่มีการจัดการศึกษาลักษณะพิเศษต้องตระหนักอยู่เสมอว่าการที่จะพัฒนาคนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น นอกจากการมุ่งเน้นทักษะทางด้านวิชาการจะต้องมีการพัฒนาทักษะทางด้านจิตใจ ผ่านการบูรณาการเข้ากับหลัก บวร : บ้าน วัด โรงเรียน ในการสนับสนุนการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ฝึกประสบการณ์อาชีพ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านท้องถิ่น จนเด็กสามารถนำไปต่อยอดเป็นทักษะความสามารถของตนได้ รวมไปถึงการสร้างจิตสำนึกต่อส่วนรวม การมีจิตอาสา คุณธรรมจริยธรรมและสำนึกรักในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของตนเองควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนได้เกิดความรักและผูกพันกับพื้นฐานของสังคมที่ตนได้เติบโตมา อันจะช่วยให้กลุ่มอนาคตของชาติเหล่านี้เป็นพลเมืองที่ดี กลับมาพัฒนาชุมชน สังคมและประเทศชาติได้อย่างยั่งยืน


ที่มา: thairath.co.th/news/local/bangkok/2816362