เทคนิคการใช้งาน WiFi File Transfer

สามารถ ดาวน์โหลดแอพ WiFi File Transfer ที่นี่ แล้วทำการติดตั้งตามปกติ

กดที่ปุ่ม Start แอพจะโชว์ URL ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อขึ้นมา

เปิดเว็บบราวเซอร์แล้วพิมพ์ URL ที่ได้จากแอพลงไป

ในหน้านี้จะแสดงข้อมูลทั้งหมดภายในเครื่องของคุณ

เมนู My Photos (แสดงรูปถ่ายทั้งหมดจากกล้องถ่ายรูป) และ My Pictures (แสดงรูปภาพทั้งหมดจากแอพและการแคปเจอร์หน้าจอ)

เมนู My Music (แสดงเพลงทั้งหมดที่อยู่ภายในเครื่องและเมมโมรี่ของคุณ) เมื่อกดที่เพลงจะเป็นการเล่นเพลงนั้นๆ ผ่านเว็บบราวเซอร์

ในแท็บ Media gallery จะแสดงรูปภาพทั้งหมดภายในโทรศัพท์และเมมโมรี่ของคุณ

วีธีการดาวน์โหลด

ดาวน์โหลดทีละไฟล์หรือเฉพาะไฟล์ที่ต้องการ

หากคุณต้องการดาวน์โหลดไฟล์เฉพาะเจาะจงเป็นบางไฟล์ สามารถกดที่เมนูดาวน์โหลด (Download) ข้างหลังไฟล์ดังกล่าวได้เลย และนอกจากคุณจะสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้แล้วข้างหลังไฟล์นั้นยังมีเมนูสำหรับเปลี่ยนชื่อ (Rename), ลบ (Delete) หรือคัดลอกไฟล์ (Copy) ได้อีกด้วย

ดาวน์โหลดหลายไฟล์พร้อมกัน

คุณสามารถกดเลือกในช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่อยู่หน้าไฟล์นั้นๆ ได้เลย (หากไอคอนของรูปดูเล็กเกินไปให้เอาเมาส์ไปชี้ที่รูป รูปนั้นก็จะขยายขึ้นมา) เมื่อทำการเลือกไฟล์ที่ต้องการแล้วให้กดที่ Download

ดาวน์โหลดทั้งโฟลเดอร์หรือแบบซิปไฟล์

ให้คุณเลือกโฟลเดอร์ที่คุณต้องการ อาทิเช่น ต้องการดาวน์โหลดรูปทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์ Sceenshots ให้คุณติ๊กเครื่องหายถูกที่หน้าโฟลเดอร์และกดที่ปุ่ม Download เท่านี้เว็บบราวเซอร์ก็จะทำการดาวน์โหลดโฟลเดอร์นั้นเป็นไฟล์ Zip มาให้คุณทันที

นอกจากการดาวน์โหลดที่ง่ายดายแล้วคุณยังสามารถรวมไฟล์เพลง, รูป และวีดีโอได้อีกด้วย ขั้นตอนการรวมก็ไม่ยากอะไรเพียงคุณเลือกไฟล์ที่ต้องการจะรวมไว้ด้วยกัน แล้วกดที่ Make Zip File (ปุ่มเมนูที่อยู่ด้านบน) หรือ Zip (ปุ่มที่อยู่ข้างหลังไฟล์และโฟลเดอร์) หากต้องการแตกไฟล์ก็กดที่เมนู Unzip ข้างหลังไฟล์ที่เราได้ซิปไปเท่านั้นเอง

วิธีเพิ่มความปลอดภัย

สำหรับใครที่กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยให้กดที่ Settings และกด Access Password เพื่อตั้งรหัสผ่าน

สำหรับทิปส์นี้ก็หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้คุณเข้าถึงไฟล์และข้อมูลภายในโทรศัพท์และหน่วยความจำของคุณได้เร็วขึ้น โดยเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi หากใครมีปัญหาในการเชื่อมต่อก็ลองตรวจสอบสัญญาณของ Wi-Fi ว่ามีความเสถียรมากน้อยแค่ไหน และลองเชื่อมต่อดูอีกครั้ง เท่านี้ก็สามารถเข้าถึงรูปและไฟล์ต่างๆ ได้รวดเร็วไม่ต้องมานั่งต่อสาย USB กันอีกต่อไป 

 
วิดีโอประกอบจาก Youtube

สามารถ ดาวน์โหลดแอพ WiFi File Transfer ที่นี่ แล้วทำการติดตั้งตามปกติ

กดที่ปุ่ม Start แอพจะโชว์ URL ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อขึ้นมา

เปิดเว็บบราวเซอร์แล้วพิมพ์ URL ที่ได้จากแอพลงไป

ในหน้านี้จะแสดงข้อมูลทั้งหมดภายในเครื่องของคุณ

เมนู My Photos (แสดงรูปถ่ายทั้งหมดจากกล้องถ่ายรูป) และ My Pictures (แสดงรูปภาพทั้งหมดจากแอพและการแคปเจอร์หน้าจอ)

เมนู My Music (แสดงเพลงทั้งหมดที่อยู่ภายในเครื่องและเมมโมรี่ของคุณ) เมื่อกดที่เพลงจะเป็นการเล่นเพลงนั้นๆ ผ่านเว็บบราวเซอร์

ในแท็บ Media gallery จะแสดงรูปภาพทั้งหมดภายในโทรศัพท์และเมมโมรี่ของคุณ

วีธีการดาวน์โหลด

ดาวน์โหลดทีละไฟล์หรือเฉพาะไฟล์ที่ต้องการ

หากคุณต้องการดาวน์โหลดไฟล์เฉพาะเจาะจงเป็นบางไฟล์ สามารถกดที่เมนูดาวน์โหลด (Download) ข้างหลังไฟล์ดังกล่าวได้เลย และนอกจากคุณจะสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้แล้วข้างหลังไฟล์นั้นยังมีเมนูสำหรับเปลี่ยนชื่อ (Rename), ลบ (Delete) หรือคัดลอกไฟล์ (Copy) ได้อีกด้วย

ดาวน์โหลดหลายไฟล์พร้อมกัน

คุณสามารถกดเลือกในช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่อยู่หน้าไฟล์นั้นๆ ได้เลย (หากไอคอนของรูปดูเล็กเกินไปให้เอาเมาส์ไปชี้ที่รูป รูปนั้นก็จะขยายขึ้นมา) เมื่อทำการเลือกไฟล์ที่ต้องการแล้วให้กดที่ Download

ดาวน์โหลดทั้งโฟลเดอร์หรือแบบซิปไฟล์

ให้คุณเลือกโฟลเดอร์ที่คุณต้องการ อาทิเช่น ต้องการดาวน์โหลดรูปทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์ Sceenshots ให้คุณติ๊กเครื่องหายถูกที่หน้าโฟลเดอร์และกดที่ปุ่ม Download เท่านี้เว็บบราวเซอร์ก็จะทำการดาวน์โหลดโฟลเดอร์นั้นเป็นไฟล์ Zip มาให้คุณทันที

นอกจากการดาวน์โหลดที่ง่ายดายแล้วคุณยังสามารถรวมไฟล์เพลง, รูป และวีดีโอได้อีกด้วย ขั้นตอนการรวมก็ไม่ยากอะไรเพียงคุณเลือกไฟล์ที่ต้องการจะรวมไว้ด้วยกัน แล้วกดที่ Make Zip File (ปุ่มเมนูที่อยู่ด้านบน) หรือ Zip (ปุ่มที่อยู่ข้างหลังไฟล์และโฟลเดอร์) หากต้องการแตกไฟล์ก็กดที่เมนู Unzip ข้างหลังไฟล์ที่เราได้ซิปไปเท่านั้นเอง

วิธีเพิ่มความปลอดภัย

สำหรับใครที่กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยให้กดที่ Settings และกด Access Password เพื่อตั้งรหัสผ่าน

สำหรับทิปส์นี้ก็หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้คุณเข้าถึงไฟล์และข้อมูลภายในโทรศัพท์และหน่วยความจำของคุณได้เร็วขึ้น โดยเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi หากใครมีปัญหาในการเชื่อมต่อก็ลองตรวจสอบสัญญาณของ Wi-Fi ว่ามีความเสถียรมากน้อยแค่ไหน และลองเชื่อมต่อดูอีกครั้ง เท่านี้ก็สามารถเข้าถึงรูปและไฟล์ต่างๆ ได้รวดเร็วไม่ต้องมานั่งต่อสาย USB กันอีกต่อไป 

วิดีโอประกอบจาก Youtube