แนะนำวิธีล้างไวรัสในโทรศัพท์มือถือ ทำยังไงเมื่อมือถือติดไวรัสหรือมัลแวร์

แนะนำวิธีล้างไวรัสในโทรศัพท์มือถือ ทำยังไงเมื่อมือถือติดไวรัสหรือมัลแวร์

วิธีล้างไวรัสในโทรศัพท์มือถือ ทำยังไงเมื่อมือถือติดไวรัสหรือมัลแวร์

แนะนำวิธีล้างไวรัสในโทรศัพท์มือถือแบบเบื้องต้น ควรทำอย่างไรเมื่อมือถือติดไวรัสหรือมัลแวร์ เพื่อนำความปลอดภัยกลับมาอีกครั้ง


จากการที่ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือกลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันโทรศัพท์มือถือก็ตกเป็นเป้าหมายหลักของภัยคุกคามต่าง ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นไวรัส มัลแวร์ หรือแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย ซึ่งนอกจากจะทำให้เครื่องช้าลงหรือแอปพลิเคชันทำงานผิดปกติแล้ว ยังทำให้เสี่ยงที่จะถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวอีกด้วย ดังนั้น การรู้วิธีแก้ปัญหาหากมือถือโดนไวรัสจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยในวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูวิธีล้างไวรัสในโทรศัพท์ ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง


วิธีล้างไวรัสในเครื่องโทรศัพท์มือถือ

 

1. ลบแอปฯ ที่ดูแปลกปลอม
ไวรัสหรือมัลแวร์มักจะติดมากับแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือแหล่งที่ไม่ได้รับการรับรองจาก Google Play หรือ App Store ดังนั้น เมื่อพบว่ามือถือเริ่มทำงานผิดปกติหรือสงสัยว่าโดนไวรัส เช่น เครื่องมีอาการช้า อืด หรือมีการแสดงแจ้งเตือนแปลก ๆ แนะนำว่าควรเริ่มจากการตรวจสอบแอปฯ ที่ติดตั้งไว้ในเครื่อง โดยให้เข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) แล้วเลือกหัวข้อที่เกี่ยวกับแอปฯ (Apps) ซึ่งมือถือแต่ละยี่ห้ออาจมีเมนูที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย จากนั้นให้ลองตรวจสอบรายชื่อแอปฯ ที่ติดตั้งไว้ในเครื่อง ถ้ามีแอปฯ ที่ไม่รู้จักหรือน่าสงสัยให้ทำการลบแอปฯ นั้นทันที


2. ใช้แอปฯ สแกนไวรัส
การติดตั้งแอปฯ ป้องกันไวรัส (Antivirus) ไม่เพียงแต่สามารถค้นหาไวรัสหรือมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่ในโทรศัพท์มือถือแล้วกำจัดทิ้งเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันภัยคุกคามจากการดาวน์โหลดไฟล์หรือแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายอีกด้วย โดยแอปฯ ป้องกันไวรัสที่เป็นที่นิยมก็มีหลายตัวดังเช่นต่อไปนี้

  • Bitdefender
  • Norton
  • Trend Micro
  • Avast
  • Avira
  • ESET


3. ล้างแคชและข้อมูลของแอปฯ ที่ทำให้มือถือติดไวรัส
บางครั้งไวรัสหรือมัลแวร์อาจจะทำให้แอปฯ ต่าง ๆ ทำงานช้าลงโดยการใช้แคชหรือข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการล้างแคชของแอปฯ สามารถช่วยลดอาการช้าของโทรศัพท์มือถือและอาจช่วยกำจัดไวรัสได้ ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แอป (Apps) > เลือกแอปฯ ที่สงสัยว่าอาจติดไวรัส แล้วกดที่ ล้างแคช (Clear Cache) และ ล้างข้อมูล (Clear Data) โดยแนะนำให้ล้างแคชของแอปฯ เว็บเบราว์เซอร์อย่างเช่น Chrome เพื่อเป็นการล้างไวรัสที่มาจากการดาวน์โหลดข้อมูลในเบราว์เซอร์


4.ล้างเครื่องโทรศัพท์กลับเป็นค่าโรงงาน
หากวิธีการอื่น ๆ ข้างต้นไม่สามารถกำจัดไวรัสได้ โทรศัพท์มือถือยังคงทำงานผิดปกติ หรือไม่มั่นใจว่าล้างไวรัสหมดเกลี้ยงหรือยัง การ Factory Reset เพื่อล้างเครื่องกลับสู่การตั้งค่าจากโรงงานก็อาจเป็นทางเลือกสุดท้ายที่น่าลองทำ ซึ่งการล้างเครื่องจะลบข้อมูลทั้งหมดในโทรศัพท์มือถือ รวมถึงไวรัสและแอปฯ ที่ไม่พึงประสงค์ด้วยนั่นเอง โดยสามารถเข้าไปอ่านวิธีล้างเครื่องโทรศัพท์เพิ่มเติมได้ที่นี่


อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะสามารถล้างไวรัสในโทรศัพท์ได้สำเร็จแล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะป้องกันไม่ให้โดนไวรัสอีกภายหลังต่อจากนี้ด้วย และที่สำคัญคือควรเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีต่าง ๆ ใหม่ เนื่องจากระหว่างที่โทรศัพท์ติดไวรัสนั้นอาจทำให้มีรหัสผ่านหลุดไปอยู่ในมือของแฮกเกอร์ก็เป็นได้ นอกจากนี้ควรหมั่นอัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ เพื่ออุดช่องโหว่ไม่ให้ไวรัสและมัลแวร์สามารถทำงานได้

 

สนับสนุนเนื้อหา: 

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th

แนะนำหลักสูตรอบรมที่น่าสนใจ

user
โดย Nong-beam
เข้าชม 37 ครั้ง

คำค้นหา : โทรศัพท์ไวรัสการล้างโทรศัพท์ไวรัสในโทรศัพท์วิธีล้างไวรัสในโทรศัพท์มือถือขั้นตอนการล้างไวรัสไวรัสเครื่องโทรศัพท์วิธีล้างไวรัสการลบแอปฯการใช้แอปฯ สแกนไวรัสการล้างแคชการล้างเครื่องโทรศัพท์