แพลนเน็ตไฟเบอร์ อินเทอร์เน็ตความเร็วแสง

“แพลนเน็ต” ลุยเน็ตความเร็วแสงต่อสายไฟเบอร์ตรงถึงห้อง
“แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย” ลุยธุรกิจใหม่ “ แพลนเน็ตไฟเบอร์” อินเทอร์เน็ตความเร็วแสง ต่อสายเคเบิลจากต้นทางถึงห้องลูกค้า จับกลุ่มคนรายได้ปานกลางถึงสูง เสนอแพ็คแกจความเร็ว 1 Gb- 100 Mb -20 Mb ราคา 9,900-790 บาทต่อเดือน 

วันนี้(28 ม.ค.) นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในชื่อ แพลนเน็ตไฟเบอร์ กิกะเน็ต (PlanetFiber GigaNET) ซึ่งเป็นบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วแสงผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสง ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางให้ห้องพักอาศัย (Fiber To The Room : FTTR) โดยหลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เมื่อเดือน ก.ย.58 ที่ผ่านมา ได้เริ่มติดตั้งบริการในอาคารสูงและคอนโดมีเนียม ซึ่งปัจจุบันได้ติดตั้งไปแล้วทั้งหมด 21 โครงการจำนวน 13,214 ห้อง 

สำหรับในปี 59 นี้ จะเข้าไปติดตั้งบริการแพลนเน็ตไฟเบอร์ในโครงการคอนโดมิเนียมอีก 60 โครงการ รวม 4 หมื่นห้อง และในปี 60 มีเป้าหมายจะเข้าไปติดตั้งอีก 120 โครงการ รวม 1แสนห้อง และคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ 5 หมื่นราย หรือประมาณ 50% ของจำนวนห้องทั้งหมด 

“บริการใหม่จะเน้นเจาะตลาดอาคารสูง คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานและโครงการที่พักอาศัยที่เป็นโครงการใหม่เนื่องจากต้องเดินสายเคเบิลใหม่ หากเป็นโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้วจะมีความยุ่งยากในการติดตั้งและต้องได้รับการยินยอมจากนิตบุคคลด้วย สำหรับกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง โดยแบ่งแพ็คแกจเป็นความเร็ว 1Gb เหมาะสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากและดูทีวี4เค ราคา 9,900 บาทต่อเดือน ความเร็ว 100Mb เหมาะสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตปานกลางและดูทีวี เอชดี ราคา 2,500 บาทต่อเดือน และความเร็ว 20Mb เหมาะสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไปราคา 790 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีบริการเสริม เช่น เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ดูทีวีและวิดีโอ การติดต่อสื่อสาร ไอพีโฟน และวีดีโอ โฟน และสมาร์ทลิฟวิ่ง ฯลฯ” 

นายประพัฒน์ กล่าวต่อว่า การลงทุนในโครงการนี้เน้นการร่วมมือกับพาร์เนอร์ โดยมีการลงทุนเฉลี่ยประมาณ1หมื่นบาทต่อหนึ่งห้อง จากเป้าหมายในปีนี้ที่จะติดตั้ง 4 หมื่นห้อง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในปีนี้คาดว่าบริการนี้จะทำได้เป็นสัดส่วน 5%จากรายได้ร่วมของบริษัท และในปี 60 จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น10%ได้อย่างแน่นอนจากที่มีโครงการที่ติดตั้งเพิ่มขึ้น.

ที่มา: