เอไอเอส เดอะ สตาร์ตอัพ 2015 เวทีปั้นฝันสตาร์ตอัพเลือดไทย
เอไอเอส เดอะ สตาร์ตอัพ 2015 เวทีปั้นฝันสตาร์ตอัพเลือดไทย ประกาศเปิดตัวโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับโครงการ เอไอเอส เดอะ สตาร์ตอัพ 2015 (AIS The StartUp 2015) ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว
ประกาศเปิดตัวโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับโครงการ เอไอเอส เดอะ สตาร์ตอัพ 2015 (AIS The StartUp 2015) ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว
โดยมีจุดประสงค์ผลักดันพลังไอเดียของ “เทค สตาร์ตอัพ” หรือ ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีหน้าใหม่ของไทย สู่ตลาดสากล และร่วมเป็นดิจิตอลพาร์ทเนอร์กับเอไอเอสเพื่อนำบริการสู่ฐานลูกค้าเอไอเอสที่มีอยู่ 44 ล้านรายในปัจจุบัน รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 550 ล้านคน และใน 25 ประเทศ ทั้งในเอเชีย ออสเตรเลีย และแอฟริกา ที่เป็นพันธมิตรกับ สิงค์เทล กรุ๊ป จากสิงคโปร์
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสมีนโยบายร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการสร้างสินค้าและบริการที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งโครงการ เอไอเอส เดอะ สตาร์ตอัพ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 ด้วยแนวคิดการขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ในการสร้างบริการ และคอนเทนต์ใหม่ ๆ หลังจากสมาร์ทโฟน และอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นแนวโน้มที่กำลังมาแรง
หลังจากเอไอเอส เริ่มโครงการในปี ค.ศ. 2011-2012 มี เทค สตาร์ตอัพน้อยกว่า 100 บริษัท และมีเงินลงทุนในระบบเพียง 60 ล้านบาท ต่อมาในปี ค.ศ. 2014 ที่ผ่านมา มีเทค สตาร์ตอัพในตลาดมากกว่า 1,000 บริษัท และมีเงินลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,230 ล้านบาท ทางเอไอเอสจึงมีความภูมิใจที่มีส่วนช่วยผลักดันสินค้าและบริการสู่ลูกค้าตลอดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
นายปรัธนา กล่าวต่อว่า ผลงานเด่น ๆ ที่ผ่านมา อาทิ FOURLEAF คือโซลูชั่น เกี่ยวกับงานบริการในโรงแรม ที่มีผู้ใช้บริการกว่า 3,000 ราย และแอพพลิเคชั่นกอล์ฟ ดิก (Golfdigg) แอพใช้จองสนามกอล์ฟที่มีคนใช้บริการแล้วกว่า 2 หมื่นรายในระยะเวลาเพียง 1 ปี หรือจะเป็น เอไอเอส ยู อคาเดมี่ (AIS U Academy) แอพพลิเคชั่นการศึกษาสำหรับติวหนังสือ ที่มีบทเรียนมากกว่า 6 แสนบาทในระยะเวลาไม่ถึงปี และสุดท้าย คือ โลเคิล อไลค์ (Local Alike) ที่เป็นธุรกิจท่องเที่ยวในแบบ อีโค-ทัวร์ริซึ่ม ที่เชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวแบบชุมชนไปสู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก เริ่มเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 2014 จนถึงปัจจุบันมีเครือข่ายมากกว่า 30 ชุมชนทั่วประเทศไทย
ทั้งนี้โครงการประกวดในปีนี้จะเป็นเสมือนโครงการเร่งรัดในการนำเทค สตาร์ตอัพที่มีผลงานโดดเด่นออกสู่ตลาดในทันที โดยจะได้รับการสนับสนุนทั้งในเรื่องการพัฒนาผลงาน การให้เงินลงทุน และการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด โดยจะเปิดกว้างในผลงานประเภทต่าง ๆ ที่ส่งเข้าประกวด ทั้ง ดิจิตอล เกม บันเทิง ไลฟ์สไตล์ อีคอมเมิร์ซ และ โซเชียล เอ็นเตอร์ไพรส์ ฯลฯ
ด้าน นายไพโรจน์ ไววานิชกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารผลิตภัณฑ์ดิจิตอล เอไอเอส กล่าวว่า ปัจจุบันสตาร์ตอัพ ของไทยมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกีฬา หรือ การศึกษา โดยคาดว่าในปี ค.ศ. 2015 นี้จะมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจสตาร์ตอัพประมาณ 10,000 ล้านบาท และมีจำนวนบริษัท สตาร์ตอัพเพิ่มขึ้นเป็น 2,000-3,000 บริษัท
จากที่ได้คุยกับชาวต่างชาติ ต่างให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่าประเทศไทยเหมาะในการทำเทค สตาร์ตอัพ มากที่สุด เนื่องจากไทยมีความพร้อม ทั้งตลาดสมาร์ทโฟนที่กำลังขยายตัวอย่างมาก มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะมีการประมูล 4จี ซึ่งจะทำให้คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือได้ง่ายขึ้น
สำหรับแนวโน้มของเทค สตาร์ตอัพที่กำลังจะมาหรือจะได้รับความนิยม คือโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับตลาดไอโอที หรือ Internet of Things (IOT) ที่กำลังกลายเป็นเทรนด์ในอนาคต ที่หลาย ๆ ฝ่ายพูดถึงว่าจะมาแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฮม สมาร์ทแคร์ รวมถึงโซลูชั่นที่เชื่อมต่อกับแวร์เอเบิล ดีไวซ์ ที่เป็นอุปกรณ์ที่กำลังมาแรง
ทั้งนี้ทาง “เอไอเอส เดอะ สตาร์ตอัพ 2015” เปิดรับผลงานในรูปแบบของแนวคิดและผลิตภัณฑ์ ที่พร้อมต่อยอดธุรกิจไปสู่ตลาดได้จริง ผู้ที่สนใจสามารถส่งใบสมัครได้ที่ www.ais.co.th/thestartup ตั้งแต่วันนี้-13 ก.ย. 58 โดยผู้สมัครสามารถจัดทำสไลด์ (Slide) เพื่อนำเสนอผลงาน จะสมัครเป็นบุคคลหรือบริษัท ชาวไทยหรือต่างชาติก็ได้ และสามารถส่งผลงานได้มากกว่า 1 ผลงาน จากนั้นคณะกรรมการจะพิจารณาเบื้องต้นและเชิญผู้สมัครเข้ามานำเสนอผลงานกับคณะกรรมการในรอบออดิชั่นทุก ๆ วันอังคาร ระหว่างวันที่ 4 ส.ค.– 22 ก.ย. 58 และจะประกาศผล 15 ทีมที่เข้ารอบ AIS Top Management ในวันที่ 25 ก.ย.58 เพื่อให้ผู้เข้ารอบร่วมนำเสนอผลงานในวันที่ 29 ก.ย. 58 และประกาศผล 10 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายในวันที่ 2 ต.ค. 58 แล้วนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณอีกครั้งพร้อมประกาศผลรางวัลชนะเลิศและรับมอบรางวัล ในวันที่ 7 ต.ค. 58
สำหรับทีมชนะเลิศจะได้รับ คือ เงินสด 1,000,000 บาทจากเอไอเอส, เงินสด 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากซัมซุง เอเชีย, ค่าเดินทางไป-กลับ และที่พัก สำหรับการเข้าร่วมงาน Regional operator Workshop ที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือน ต.ค. และเข้าร่วมงาน Regional Challenge ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียในเดือน ธ.ค. นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยยังมอบรางวัลพิเศษ “Best FinTech StartUp Award” เป็นเงินสด 100,000 บาท ให้แก่ทีมที่นำเสนอโครงการเกี่ยวกับ FinTech อีกด้วย.
ที่มา:
ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting
ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ
Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFeFacebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
คำค้นหา : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยมีจุดประสงค์ผลักดันพลังไอเดียของ “เทค สตาร์ตอัพ”ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีหน้าใหม่ของไทย สู่ตลาดสากล ร่วมเป็นดิจิตอลพาร์ทเนอร์กับเอไอเอสเพื่อนำบริการสู่ฐานลูกค้าเอไอเอสที่มีอยู่ 44 ล้านรายในปัจจุบันเอไอเอสมีนโยบายร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการสร้างสินค้าและบริการที่ดีให้กับลูกค้า แนวคิดการขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ในการสร้างบริการ และคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทางเอไอเอสจึงมีความภูมิใจที่มีส่วนช่วยผลักดันสินค้าและบริการสู่ลูกค้าเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวแบบชุมชนไปสู่นักท่องเที่ยวทั่วโลกสนับสนุนทั้งในเรื่องการพัฒนาผลงาน การให้เงินลงทุน และการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด