10 เหตุผลที่ทำให้เรายังไม่คิดจะซื้อ iPhone XS

10 เหตุผลที่ทำให้เรายังไม่คิดจะซื้อ iPhone XS

หมวดหมู่: บทความทั่วไปiOSข่าวไอที

10 เหตุผลที่ทำให้เรายังไม่คิดจะซื้อ iPhone XS
เราเป็นหนึ่งในคนที่ตื่นเต้นกับ iPhone XS มาก และมีความตั้งใจว่าจะเสียเงินให้มันอย่างแน่นอน แต่มาคิดอีกที ก็กลับมาถามตัวเองว่ามันจำเป็นขนาดนั้นหรือเปล่า จึงได้พยายามหาเหตุผลที่จะไม่ซือมาบอกตัวเอง (รวมถึงคนที่กำลังอยากได้) อนึ่ง บทความนี้ไม่จำเป็นสำหรับคนที่มีความพร้อมในการจ่ายนะครับ ถ้าซื้อแล้วไม่เดือดร้อน ซื้อแล้วไม่ต้องผ่อนไป 10 เดือนแบบกินมาม่ายาวๆ อยากได้ก็ซื้อเถอะ ส่วนคนที่ไม่พร้อม หรือพร้อมแต่ต้องการหาเหตุผลมาระงับกิเลสล่ะก็ เชิญอ่านต่อได้เลย

หมายเหตุ เนื้อหาต่อไปนี้อิงจากมุมมองของผู้ที่ใช้ iPhone X หรือ iPhone 8 อยู่ หากคุณเป็นสาวก Apple ที่ใช้ iPhone รุ่นเก่าจนแบตเสื่อม เครื่องช้า อยากเปลี่ยนเครื่องใหม่เต็มทีกะรอซื้อรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องคิดเยอะ อยากได้ก็ซื้อเถอะ

1. iPhone XS นั้นแพ๊งแพง
ถ้าเราจะเอารุ่น Top สุด iPhone XS Max 512GB ค่าตัวมันสูงถึง $1,499 เข้าไทยมาราคาก็น่าจะราวๆ 49,000 บาท หรือซื้อรุ่นถูกสุดอย่าง iPhone XS 64GB ที่ค่าตัวอยู่ที่ $999 (ประมาณ 33,000 บาท) แต่จากที่สังเกตคนรอบๆ ตัวแล้ว ส่วนใหญ่ก็มักจะซื้อรุ่น 256GB ซึ่งมันมีราคาอยู่ที่ $1,149 (ประมาณ 38,000 บาท) เงินเท่านี้เราสามารถเอาไปซื้อ MacBook Air หรือเก็บไว้ซื้ออย่างอื่นได้หลายอย่างเลยนะ

และถ้าหากเราใช้ iPhone X อยู่แล้ว การเปลี่ยนรุ่นในครั้งนี้ ดูจะเป็นการอัพเกรดที่ไม่คุ้มสักเท่าไหร่ แม้จะขายเครื่องเก่าเอาเงินมาสมทบทุนก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณหมื่นนิดๆ เพื่อให้ได้ไอโฟนเครื่องใหม่ที่ CPU เร็วกว่าหน่อยๆ กับกล้องที่ดีขึ้นอีกนิดนึง (อันที่จริง มันก็ดีขึ้นพอสมควรแหละ แต่นี่คือบทความที่พยายามระงับกิเลสไง)

2. iPhone X ราคากำลังน่ารักเลย
ทันทีที่ Apple เปิดตัว iPhone XS ก็เลิกจำหน่าย iPhone X ในทันที ก็แหงล่ะ ปกติราคารุ่นเก่าเมื่อถูกปรับลดลงจะห่างกันราวๆ $100 (ประมาณ 3,500 บาท) ซึ่งน่าจะทำให้ iPhone XS ขายยากขึ้น

แต่ในบ้านเราตอนนี้ iPhone X แต่ล่ะค่ายกำลังจัดโปรลดราคา เพื่อล้างสต๊อคเตรียมขาย iPhone XS แทน หากใครคิดจะเปลี่ยนเครื่อง การเลือก iPhone X แทน iPhone XS ในช่วงนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

3. iPhone XS ไม่มีฟีเจอร์ใหม่สุดเทพ
iPhone 6s มาพร้อม 3D Touch, iPhone 7 มาพร้อมกล้องคู่, iPhone X มาพร้อม Face ID และ TrueDepth แต่...iPhone XS ไม่มีของเล่นใหม่เลย มันเป็นเพียงไมเนอร์เชนจ์ของ iPhone X เท่านั้น

4. ผล Benchmark ออกมาจาก iPhone XS ไม่ได้เร็วกว่า iPhone X มาก
ในตอนนี้ก็มีผลการทดสอบประสิทธิภาพ Benchmark ของ iPhone XS ออกมาแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้แรงกว่า iPhone X มาก โดย
     - iPhone XS Max ทำคะแนน Single-core อยู่ที่ 4,813 และ Multi-core ทำได้ 10,266 คะแนน 
     - iPhone X ทำคะแนน Single-core อยู่ที่ 4,061 และ Multi-core ทำได้   9,959 คะแนน
และจากการใช้งานมาตลอด 1ปี iPhone X ก็ยังมีความเร็วที่สูงมาก รวมถึงใน iOS 12 มันจะทำงานได้เร็วยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย!

แม้ว่าในชิปรุ่นใหม่ A12 Bionic จะมี Neural engine 8 คอร์ ที่เร็วกว่าใน A11 Bionic มาก แต่เรื่องนั้นเพียงเรื่องเดียว ก็ไม่ใใช่เหตุผลมากพอที่เราควรจะอัพเกรด

5. iPhone รุ่นเก่า กำลังจะทำงานได้เร็วขึ้น
คนมักจะบอกว่าเวลาอัพ iOS เวอร์ชั่นใหม่ เครื่องเดิมมักจะทำงานได้ช้าลง แต่ใน iOS 12 ที่กำลังจะมา Apple ได้ปรับปรุงให้ iOS 12 ทำงานได้เร็วยิ่งกว่าเดิม ซึ่งจากการทดสอบในเวอร์ชั่น Beta ก็บอกได้เลยว่ามันเป็นเรื่องจริงๆ แม้แต่ใน iPhone 5s ก็ยังทำงานได้เร็วขึ้นใน iOS 12

ดังนั้น หากคุณอยากได้เครื่องใหม่เพราะว่ามันช้าแล้วล่ะก็ ลองอัพเดท iOS 12 ก่อนค่อยตัดสินใจอีกทีก็ยังไม่สาย

6. Apple ให้สัญญาว่าจะสนับสนุน iPhone รุ่นเก่าไปอีกนาน
ในงานเปิดตัว iPhone XS ทาง Apple ได้ประกาศว่ามีแผนที่จะสนับสนุน iPhone รุ่นเก่าให้นานกว่าเดิม เพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การเอาเครื่องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ แล้วอัพเป็น iOS 12 น่าจะประหยัดเงินไปได้โขเลย ที่สำคัญตอนนี้ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่แท้ที่ศูนย์อยู่ที่ 1,000 บาท เท่านั้นด้วยนะ ถึงสิ้นปีนี้

7. iPhone ในปี 2019 จะมีความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
ชื่อ "S" ที่ต่อท้าย บ่งบอกถึงการอัพเกรด ไม่มีดีไซน์ใหม่ หรือนวัตกรรมสุดล้ำใส่เข้ามา ซึ่ง iPhone XS ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการเอา iPhone X มาอัพเกรดนั่นเอง ทำให้เชื่อได้ว่า iPhone ที่จะเปิดตัวในปี 2019 จะเป็นการอัพเกรดที่คุ้มค่ากว่าตอนนี้แน่นอน

8. iPhone XR ก็ไม่เลวนะ
ไม่มีการเปิดตัว iPhone 9 ในปีนี้ ทาง Apple กล่าวว่าได้เวลาบอกเวลา iPhone ดีไซน์เดิมแล้วไม่มีปุ่ม Home ไม่มีขอบบนล่างหนาๆ แบบเก่า ซึ่งนั่นก็ออกมาเป็น iPhone XR นั่นเอง มันมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เหมือนกับ iPhone XS ในราคาที่ถูกกว่ามาก

โดยสิ่งที่เราต้องแลกมาก็คือจอ LCD แทนจอ OLED, กล้องเดี่ยว แทนกล้องคู่ โดยใช้ซอฟต์แวร์ในการถ่ายโหมด Portrait แทน แต่ที่เหลือเกือบทั้งหมดมันทำได้เหมือน iPhone XS เลย

9. ไม่มี Exclusive Features
สิ่งเดียวที่เราเห็นว่าเป็น Exclusive Features ใน iPhone XS คือ เราสามารถปรับระดับ Depth effect ของการถ่ายภาพในโหมด Portrait ได้ แต่ถ้าอยากทำบ้างใน iPhone 8 Plus และ iPhone X คุณก็แค่ดาวน์โหลดแอพฯ ฟรีที่มีชื่อว่า Focos! มาใช้เท่านั้นเอง

อ้อมี Dual SIM ด้วยนี่นะ ที่มีแค่ใน iPhone รุ่นใหม่ โดย SIM ที่สองจะใช้ eSIM ข่าวดี คือ ในประเทศไทยก็รองรับ eSIM ทั้งสามค่ายแล้วนะ

10. ราคาที่ใหญ่ยิ่ง มาพร้อมกับของแถมที่น้อยยิ่ง
แม้ว่าค่าตัวจะมหาโหด แต่ Apple ก็ยังงกของแถมเช่นเคย ในกล่องไม่แถมอะแดปเตอร์แบบ Fast charge แถมยังไม่ให้สายแปลง Lightning to 3.5 มม. มาในกล่องอีกต่อไป แท่นชาร์จไร้สายอย่าง AirPower ก็เงียบกริบไปกับสายลม สายชาร์จ Lightning แบบ USB-C ที่ลือกันมานานก็ยังคงลือต่อไป

ที่มา:

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
user
โดย เอ็นโอไอ ไอทีจีเนียส
เข้าชม 2,457 ครั้ง

คำค้นหา : Apple iPhone XSiPhone X iPhone 8 MacBook Airฟีเจอร์iPhone 6s 3D Touch iPhone 7กล้องคู่Face ID TrueDepth Benchmark iOS 12iPhone 5s แบตเตอรี่ดีไซน์จอ LCDจอ OLEDการถ่ายโหมด PortraitExclusive Features Dual SIM สายชาร์จ Lightning