3 ข้อควรรู้เกี่ยวกับเลนส์โปรเกรซีฟ

3 ข้อควรรู้เกี่ยวกับเลนส์โปรเกรซีฟ "นิคอน" ชวนมองโลกผ่านเลนส์
ดูเหมือนว่าการใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดียของคนไทยวันละหลายชั่วโมงจะเป็นเรื่องปกติ เพราะด้วยไลฟสไตล์ของคนในปัจจุบันที่เน้นความรวดเร็ว ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงได้ง่ายเพียงปลายนิ้วคลิก เทคโนโลยี สมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญและเป็นเพื่อนคู่ใจ (คู่ตา) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้วยกระแสความสนใจและการตื่นตัวในการดูแลสุขภาพตา รวมถึงการเลือกแว่นสายตาของคนในสังคมที่มากขึ้น บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจัดจำหน่ายเลนส์สายตานิคอนประจำประเทศไทย จึงได้เผย 3 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) อีกหนึ่งเลนส์ทางเลือกคุณภาพเพื่อคนที่มีปัญหาค่าสายตาหรือต้องการที่จะดูแลสุขภาพตาในระยะยาว ดังนี้

ชัดทุกระยะ ครบจบในเลนส์เดียว

เลนส์โปรเกรสซีฟ เป็นเลนส์ที่ให้วิสัยทัศน์คมชัดทุกระยะการมองและเป็นธรรมชาติ ผู้สวมใส่สามารถมองเห็นวัตถุจากระยะไกล กลาง และใกล้ได้อย่างต่อเนื่องไร้รอยต่อ ผ่านการทำงานภายในเลนส์เดียวกัน ผู้สวมใส่ไม่จำเป็นต้องมีแว่นหลายอันหรือถอดแว่นออกสวมแว่นเข้าตลอดเวลา อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ แตกต่างจากเลนส์สองชั้นที่มีขีดกลางเลนส์ ที่เมื่อดูแล้วจะรู้ทันทีว่าผู้ใช้มีค่าสายตายาว และเมื่อสายตามองเห็นภาพได้คมชัดแล้ว ผู้สวมใส่จึงไม่จำเป็นต้องหรี่ตาหรือขมวดคิ้ว(แบบไม่รู้ตัว)ขณะปรับโฟกัสสายตา ที่ซึ่งจะทำให้เสียบุคลิกอีกด้วย

ทำไมบางคนใส่แล้วยังมีอาการมึน?

ความต้องการและความเคยชินในการมองเห็นของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แต่ด้วยข้อจำกัดของเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไปที่มีในตลาดที่มีโครงสร้างจำกัด หนึ่งโครงสร้างเลนส์จึงถูกนำไปปรับใช้สำหรับหลายค่าสายตา ทำให้ไม่ได้แว่นสายตาเฉพาะบุคคลจริงๆ ผู้สวมใส่ยังคงได้รับภาพที่ไม่เป็นธรรมชาติ ต้องใช้เวลาในการปรับตัว ต้องขยับแว่นขึ้นลงบ่อยครั้งเพื่อปรับโฟกัสหรือลดความบิดเบือนของภาพ หลายคนรู้สึกไม่สบายตา มีอาการมึน เวียนศรีษะ ซึ่งกว่าครึ่งพบว่ามีสาเหตุมาจากการวางตำแหน่งเลนส์ไม่เข้ากับสรีระหรือพฤติกรรมของผู้สวมใส่นั่นเอง

Nikon SeeMax Ultimate: เลนส์โปรเกสซีฟของคุณ คุณออกแบบได้

ดวงตาและแว่นตาจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการมองเห็นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด การเลือกเลนส์จึงควรให้ความสำคัญกับผู้สวมใส่เป็นสำคัญ การคำนึงถึงประสิทธิภาพในการใช้งานของเลนส์เพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพออีกต่อไป ซึ่งในปัจจุบันนี้ ค่าสายตาที่มีความแตกต่างเฉพาะตัว เหมือนลายนิ้วมือ สามารถได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะบุคคลได้แล้ว อย่าง เลนส์แว่นสายตาแห่งอนาคต (Nikon SeeMax Ultimate) จากนิคอน

ครั้งแรกที่ให้ผู้สวมใส่ได้ร่วมมือในการออกแบบเลนส์สำหรับการใช้งานของตนเอง ผ่านนวัตกรรมขั้นสูงล่าสุด (Insights Technology) บน iPad ซึ่งคำนึงถึง 3 ปัจจัยเป็นสำคัญ คือ ความต้องการ ลักษณะการใช้งาน รวมถึงความคุ้นชินในการใช้งานของผู้สวมใส่ ทำให้มีโครงสร้างเลนส์มากกว่า 428,793,740 รูปแบบรองรับความต้องการเฉพาะของผู้ส่วมใส่ ซึ่งในตลาดตอนนี้ยังไม่มีแบรนด์ใดที่สามารถออกแบบโครงสร้างได้มากเท่านี้มาก่อน เรียกได้ว่าเป็นเลนส์แว่นตาโปรเกสซีฟเฉพาะบุคคลที่แท้จริง ทำให้ได้ภาพที่คมชัด สมจริง รู้สึกเป็นธรรมชาติ ทุกมุมมอง รอบทิศทาง หมดปัญหาดวงตาทำงานหนัก ภาพซ้อนหรือเบลอ ผู้สวมใส่ใช้เวลาปรับตัวไม่นาน จึงไม่จำเป็นต้องก้มหรือเงยศีรษะ หรือถอดแว่นเข้าออกตลอดเวลาเพื่อปรับโฟกัสภาพ ทำให้ไม่เกิดอาการมึนศีรษะ หรือต้องหรี่ตาจนเสียบุคลิก

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า จริงๆแล้วในชีวิตประจำวันของเรา ในหนึ่งวันเรามีการใช้สายตาโฟกัสภาพในระยะที่แตกต่างกันอยู่ตลอดเวลา อาทิ หยิบมือถือขึ้นมาเล่นหลังตื่นนอนเป็นสิ่งแรก นี่คือการมองภาพในระยะใกล้ การจดจ้องมองไปยังหน้าถนนขณะขับขี่ เป็นการมองภาพในระยะกลาง หรือแม้กระทั่งการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งที่จำเป็นต้องปรับโฟกัสสายตาเพื่อการมองภาพในระยะไกล

ดวงตาของเรามีเพียงคู่เดียวในโลก และด้วยพฤติกรรมการใช้สายตาของเราที่มากขึ้นและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานี้ การปรึกษาและรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการเลือกสวมใส่แว่นสายตาที่ดีอย่าง เลนส์แว่นสายตาแห่งอนาคต (Nikon SeeMax Ultimate) ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ตรงความต้องการและไลฟสไตล์ที่แตกต่างเฉพาะบุคคล จึงเป็นอีกทางเลือกเพื่อการดูแลสุขภาพดวงตาและสายตาที่ดีให้อยู่กับเราไปนานๆ

ที่มา: