5+1 พฤติกรรมควรเลี่ยง เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่มือถือเสื่อมเร็วขึ้น
แบตเตอรี่มือถือเป็นอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานจำกัด ซึ่งการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่มือถือมากที่สุดคือพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ พฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ พฤติกรรมที่ควรเลี่ยงเพื่อไม่ให้แบตเตอรี่มือถือเสื่อมเร็วขึ้น มีดังนี้
พฤติกรรมชาร์จแบตเตอรี่มือถือที่อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น มีดังนี้
การชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ทั้งคืน การชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ทั้งคืนโดยที่แบตเตอรี่เต็มแล้วนั้น จะทำให้แบตเตอรี่ได้รับพลังงานมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ ทางที่ดีควรถอดปลั๊กชาร์จเมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้ว
ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ทุกครั้ง การชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ทุกครั้งนั้น จะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ ทางที่ดีควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เหลือประมาณ 20-30% ก่อนชาร์จใหม่
ใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยง การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงจนเครื่องดับนั้น จะทำให้แบตเตอรี่ได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ ทางที่ดีควรชาร์จแบตเตอรี่เมื่อแบตเตอรี่เหลือประมาณ 20-30%
ใช้เครื่องในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง อุณหภูมิสูงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ การใช้เครื่องในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น กลางแดดจัด หรือในรถยนต์ที่จอดตากแดด จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้
ใช้เคสที่หนาหรือปิดช่องระบายอากาศ เคสที่หนาหรือปิดช่องระบายอากาศ อาจทำให้เครื่องร้อนขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้
ใช้แอปพลิเคชันที่กินพลังงานสูง แอปพลิเคชันที่กินพลังงานสูง เช่น แอปพลิเคชันเล่นเกม หรือแอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโอ จะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้
นอกจากพฤติกรรมการใช้งานแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่มือถือ เช่น สภาพอากาศ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และคุณภาพของแบตเตอรี่ โดยแบตเตอรี่มือถือรุ่นใหม่ๆ มักจะมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ก็ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่มือถือให้นานที่สุด
แนวทางการดูแลแบตเตอรี่มือถือให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น มีดังนี้
อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด การอัปเดตซอฟต์แวร์มักจะมาพร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ซึ่งอาจรวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ด้วย
ใช้เครื่องในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิปกติ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป
ปิดการใช้งานแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้ แอปพลิเคชันที่เปิดอยู่แม้ว่าจะไม่ใช้งานอยู่ ก็ยังคงใช้พลังงานแบตเตอรี่อยู่ ดังนั้นควรปิดการใช้งานแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้เพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอรี่
ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม ความสว่างหน้าจอเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้พลังงานแบตเตอรี่มากที่สุด ดังนั้นควรปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน
ใช้โหมดประหยัดพลังงาน โหมดประหยัดพลังงานจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่โดยลดการใช้พลังงานของอุปกรณ์
เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เมื่อจำเป็น เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพจนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว ก็ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
ขอบคุณภาพและบทความโดย Siritorn W.
ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting
ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ
Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFeFacebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
แนะนำหลักสูตรอบรมที่น่าสนใจ
Basic ASP.net 4.0 (คอร์สพื้นฐาน)
ภาษา ASP นับเป็นอีกภาษาในการเขียนเว็บโปรแกรมมิ่งจากทางฝั่ง Microsoft ซึ่งตัวภาษาจะมีพื้...
Advanced ASP.net 4.0 (คอร์สขั้นสูง)
หลักสูตร Advanced ASP.net 4.0 เป็นหลักสูตรที่เหมาะสำหรับผู้เรียนที่เคยเขียนโปรแกรมด้วย...
คำค้นหา : ชาร์ตแบตการชาร์แบตแบตเสื่อมการรักษาแบตแนวทางรักษาแบตวิธีรักษาแบตการเก็บรักษาแบตการชาร์ไฟฟ้าวิธีการชาร์จมือถือการใช้งานการบำรุง