Google เปิดตัว Pixel 5 และ Pixel 4a 5G มือถือ 5G รุ่นแรกของค่ายมาพร้อมกับเลนส์มุมกว้างครั้งแรก

Google เปิดตัว Pixel 5 และ Pixel 4a 5G มือถือ 5G รุ่นแรกของค่ายมาพร้อมกับเลนส์มุมกว้างครั้งแรก 

Google เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดทั้งหมด 2 Model รุ่นใหม่ที่เป็นเทคโนโลยี 5G ครั้งแรก และเรียกได้ว่าหลุดตามคาด กับ Pixel 4a 5G และ Pixel 5 มาดูกันว่ามันมีจุดเด่นอย่างไรบ้างและสุดทา้ยแล้วมันน่าใช้จริงไหม 

Pixel 5 

เริ่มต้นกับตัวท๊อปกันก่อนกับ Pixel 5 รุ่นใหม่รอบนี้ไม่มีรุ่น XL แล้วมีแต่ Pixel 5 เพียงตัวเดียวและหน้าจอ 6 นิ้ว  ความละเอียด FHD+ และ ค่า Refresh Rate 90Hz  

จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่การเลือกใช้ CPU คือ Qualcomm Snapdragon 765G ที่ทั้งแรงและรองรับ 5G แต่ว่าไม่เหมือนกับ Pixel รุ่นอื่นที่เลือกใช้ Snapdragon 800 Series เพราะคงเป็นที่ต้นทุนอย่างแน่นอน แต่ตัวนี้รองรับ 5G ในรูปแบบ Sub-6 เท่านั้น และ WiFi ยังคงเป็น WiFi AC (WiFi 5) 

ส่วนกล้องให้มาทั้งหมด 2 ตัวประกอบไปด้วย กล้องหลักความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล เหมือนเดิม F1.7 มุมกว้างและอีกเลนส์ 16 ล้านพิกเซล ให้มุมกว้างกว่าเดิม (หากเป็นรุ่นที่แล้วจะเป็นเลนส์ Telephoto) แต่มีลูกเล่นทั้ง Night Sight ถ่ายภาพกลางคืนสวย, การซูมที่เรียกได้ว่าเสียความละเอียดน้อยมาทดแทน และ ถ่ายความละเอียด 4K แบบ 60 FPS 

ด้านแบตเตอรี่ก็ให้มากขึ้นเป็น 4080 mAh รองรับที่ชาร์จกำลัง 18W พร้อมกับระบบความปลอดภัยทั้งหมด คือสแกนใบหน้าและ สแกนนิ้วด้านหลัง และกันน้ำระดับ IP68 และตัวเครื่องทำจะอะลูมิเนียมที่รีไซเคิลมา 

 โดยราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 700 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 22,140 บาท เริ่มเปิดจำหน่ายคาดว่า 15 ตุลาคม นี้ ที่ประเทศกลุ่มแรกเช่นในยุโรป และ สหรัฐอเมริกา 

Pixel 4a 5G 

แม้จะชื่อเดียวกับมือถือรุ่นถูกและสเปกคุ้มแต่ว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นมีหลายจุดเช่น ยังได้คงได้หน้าจอ 6.2 นิ้ว OLED เล็กกว่า Pixel 4 XL เพียงแค่ 0.1 นิ้วเท่านั้น และยังมาพร้อมกับความละเอียด FHD+ และค่า Refresh Rate 60 Hz เท่าเดิม 

ขุมพลังเหมือนกับ Pixel 5 ต่างกันที่ความจำเพราะ Pixel 4a 5G ได้ RAM ที่ 6GB ขณะที่ Pixel 5 ได้ RAM 8GB แต่ความจำได้เท่ากันคือ 128GB  

กล้องหลังนั้นได้เหมือนกับ Pixel 5 คือเลนส์คู่ความละเอียด 16 + 12.2 ล้านพิกเซล (Ultra Wide + Wide) และยังมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่เท่ากับ Pixel 5 เช่นเดียวกัน ให้แบตเตอรี่ขนาด 3885 mAh รองรับที่ชาร์จกำลัง 18W เหมือนกัน 

แต่ว่าบอดี้ของเครื่องทำจาก Polycabonate มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง เรียกได้ว่ามาครบ 

ส่วนราคาอยู่ราวๆ 500 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 15,820 บาท ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มเปิดจองในช่วงกลางเดือนนี้ และขายจริง ต้นเดือนพฤศจิกายน แต่บางประเทศอาจจะเร็วกว่านั้น 

และบางประเทศแถมมากับหูฟัง BOSE QC 35 II เช่นเดียวกัน 

ที่มา: